GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "Final Fantasy 14"
Final Fantasy 14: Endwalker ปล่อยตัวอย่างใหม่ เผยรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่!!
ถ้าพูดถึงเกมแนว MMORPG ที่ดีที่สุดล่ะก็ ผมคิดว่าสิ่งแรกที่เพื่อนๆ นึกถึงน่าจะเป็น Final Fantasy 14 แน่นอน ตัวเกม Final Fantasy 14 นั้นได้ปล่อยส่วนเสริมของเกมที่เพิ่มความสนุกไว้แล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งที่เพิ่มเข้ามาคร่าวๆ จะมีเป็นเนื้อเรื่องกับเกมเพลย์ใหม่ๆ ซึ่งดูเหมือนว่าในส่วนเสริม Endwalker ที่กำลังจะมานี้จะเป็นส่วนเสริมที่ใหญ่ที่สุด โดยทาง Square Enix ก็ได้ปล่อยตัวอย่างใหม่ให้พวกเราได้เห็นรายละเอียดต่างๆ ที่กำลังจะมาในส่วนเสริมนี้ จะมีอะไรบ้างนั้น สามารถรับชมได้ด้านล่างนี้เลยครับในตัวอย่างมีความยาวอยู่ที่ 18 นาทีโดยในนั้นได้เผยการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของแต่ละอาชีพโดยรวมจะมี White Mage, Black Mage, Dragoon, Paladin, Bard, Dancer, Machinist, Reaper ซึ่งเป็นอาชีพใหม่และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ที่ถูกเปลี่ยนมากที่สุดก็คงเป็นอาชีพ Summoner นี่แหละ ตอนนี้อาชีพ Summoner ถูกปรับให้เกี่ยวข้องกับการอัญเชิญ Primals มากขึ้นซึ่งน่าจะถูกใจผู้เล่นหลายคนเลยแหละ ส่วนเสริม Endwalker ของ Final Fantasy 14 จะวางขายในวันที่ 23 พฤศจิกายน โดยจะวางขายให้กับเครื่อง PS5, PS4 และ PC เพื่อนๆ ที่อยากได้ตัวอย่างนี้ล่ะก็อย่าลืมเก็บเงินซื้อกันนะครับCredit : GamingBolt
20 Sep 2021
ตำราอาหารของ Final Fantasy 14 จะวางจำหน่ายในปลายปีนี้ รวมกว่า 70 เมนู!
เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้มีการประกาศเกี่ยวกับ Cookbook หรือตำราอาหารของ Tomb Raider ภายในงานช่วงเดือนมีนาคมของทาง Square Enix ที่ทำให้เราพอจะรู้ได้ว่าเมนูอาหารของ Lara Croft ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูสำหรับรองท้องเสียมากกว่า ทำให้ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเธอจึงมักจะเดินทางไปอย่างยากลำบากอยู่เสมอ  อย่างไรก็ดีตำราอาหารของ Final Fantasy 14 ที่เราได้ค้นพบเมื่อวานนี้นั้น เต็มไปด้วยเมนูอาหารสุดหรูหรา ชวนท้องร้องกว่า 70 เมนู! ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมของ Eorzea จากโพสต์ Twitter ของผู้ใช้ชื่อว่า Wario64 ที่ได้ทำการขุดค้นฐานข้อมูลของ Amazon และพบเข้ากับตำราอาหารของเกม ซึ่งพร้อมให้สั่งซื้อล่วงหน้าแล้วในราคา $35 หรือประมาณ 1,142.40 บาท เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งน่าสะสมสำหรับแฟนๆ เกม Final Fantasy 14 เลยทีเดียว โดยในเว็บไซต์ก็ได้มีการให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวตำราอาหารนี้ว่า“เป็นการท่องไปในโลกแห่งการปรุงอาหารอันอุดมสมบูรณ์ของ Final Fantasy 14 ที่จะนำเสนอเมนูยอดนิยม วัตถุดิบ กลวิธีในการปรุง ไปจนถึงเคล็บลับความอร่อยจากทั่วทั้ง Hydaelyn และ Norvrandt ทั้งการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่สดใสด้วย Farmer’s Breakfast อาหารแสนเรียบง่ายยอดนิยม การได้ลิ้มรสขนมปังของอัศวินแห่ง Coerthas หรือการดำดิ่งลงสู่รสชาติอันนุ่มลึกจาก Rolanberry Cheesecake ของ La Noscea เป็นต้น”โดยจากภาพที่ Wario64 อัปโหลดเอาไว้ ตำรับอาหารของ Final Fantasy 14 เล่มนี้ก็จะวางจำหน่ายในวันที่ 9 พฤศจิกายน ซึ่งเมื่อพิจารณาร่วมกับยอดผู้เล่นที่พุ่งสูงมากขึ้นในขณะนี้ ก็มีความเป็นไปได้ว่านี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาสมที่สุดแล้วก็ได้ ที่ตำราอาหารเล่มนี้จะถูกปล่อยออกมาCredit: GameInFormer
14 Jul 2021
เกมดังเกินไป Final Fantasy 14 ตัวเกมเวอร์ชันดิจิทัลขายหมดยันหน้าร้าน Square Enix Store
จาก 1 ในเกมที่ล้มเหลวที่สุด สู่ 1 ในเกม MMORPG ที่ดังมากที่สุดในโลก ผมคิดว่าเพื่อนๆ ต้องรู้จักเกม Final Fantasy 14 กันบ้างแหละ สำหรับคนที่ไม่รู้จัก เกมนี้นะครับ เกมนี้จะให้ผู้เล่นได้เลือกอาชีพต่างๆ ที่เราต้องการจะเล่น แล้วออกผจญภัยใน Eorzea เกมนี้ก็มีการวางขายส่วนเสริมของเกมเพิ่มยกตัวอย่างเช่น Shadowbringers และล่าสุดที่เปิดให้พรีออเดอร์คือ Endwalker ซึ่งเตรียมวางขายในปลายปีนี้ตามที่ผู้ใช้ Reddit ได้บอกไว้คือ Final Fantasy 14 ขายดีจนหมดสต็อกหน้าร้าน Square Enix Store ไปแล้วทำให้เราคาดการณ์ได้ว่าทาง Square Enix ไม่ได้สร้างรหัสไว้ล่วงหน้าหรือไม่ก็สร้างล่วงหน้าไว้แล้วแต่เกมขายดีมากเกินไปจนรหัสหมดไม่ก็ความจุเซิร์ฟเวอร์ไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้เล่นครับ แต่ก็มีข่าวมาว่า Square Enix วางแผนว่าจะลงทุนขยายความจุเซิร์ฟเวอร์ในเวอร์ชัน 6.0 นะเมื่อ 2 - 3 เดือนที่ผ่านมามีผู้เล่นลงทะเบียน Final Fantasy 14 ไว้ถึง 22 ล้านคน แต่การมาของส่วนเสริม Endwalker ก็ทำให้มีแนวโน้มว่ายอดผู้เล่นจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะส่วนเสริม Endwalker มียอดพรีออเดอร์เยอะกว่าตอน Shadowbringers เป็นอย่างมาก สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังตัดสินใจจะซื้อผมจะบอกสเปคคอมขั้นต่ำไว้ด้านล่างนี้นะครับสเปคขั้นต่ำสำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการจะเล่น Final Fantasy 14: Endwalker นะครับคือ Intel Core-i5 2.4GHz หรือสูงกว่านี้ RAM 4 GB ขึ้นไป และ Geforce GTX 750 หรือ Radeon R7 260X ครับสเปคประมาณนี้จะให้ความละเอียดอยู่ที่ 1280x720 ส่วนสเปคที่แนะนำคือ Intel Core-i7 3 GHz หรือสูงกว่า RAM 8 GB ขึ้นไป กับ GeForce GTX 970 หรือ Radeon RX 480 ครับด้วยสเปคประมาณนี้จะได้ความละเอียดอยู่ที่ 1920x1080 ครับสำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจส่วนเสริม Endwalker นะครับ สามารถพรีออเดอร์ได้ผ่านลิงก์นี้เลย ซึ่งจะวางขายในวันที่ 23 พฤศจิกายนให้กับเครื่อง PS4, PS5 กับ PC ครับCredit : GamingBolt 
13 Jul 2021
Final Fantasy 14: Endwalker มียอดพรีออเดอร์มากกว่า Shadowbringers ถึง 160-180%
ผมว่าเพื่อนๆ หลายคนคงรู้จัก Final Fantasy 14 กันเป็นอย่างดี Final Fantasy 14 เป็นเกมแนว MMORPG ที่โด่งดังมากเกมนึง โดยจะให้ผู้เล่นได้เลือกอาชีพต่างๆ แล้วผจญภัยในโลก Eorzea ตัวเกมก็มีส่วนเสริมออกมาอย่าง Shadowbringers ให้แฟนๆ ได้สนุกสนานกับอาชีพใหม่ๆ ตอนนี้ก็มีส่วนเสริมออกมาเช่นกันคือ Endwalker ซึ่งดูเหมือนว่าจะใหญ่และดีกว่าส่วนเสริมตัวก่อนๆ ซะอีก ซึ่งก็คงทำให้แฟนๆ ต้องตื่นเต้นกันใหญ่เลยแหละ อิงจากไลฟ์สตรีมล่าสุดของ Naoki Yoshida ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์เกม Final Fantasy 14 ได้ออกมาเปิดเผยว่า ยอดพรีออเดอร์ของ Endwalker มากกว่าของ Shadowbringers ที่ออกมาในปี 2019 ถึง 160 - 180% เลยทีเดียว แล้ว Yoshida ยังกล่าวอีกว่าจำนวนผู้ Final Fantasy 14 ในตอนนี้มากซะจนทาง Square Enix วางแผนที่จะลงทุนหลายล้านดอลลาร์ในการขยายและปรับปรุงเซิร์ฟเวอร์ของเกม ซึ่งคาดว่าจะมาในเวอร์ชั่น 6.0 ที่จะออกในสิ้นปีนี้พอรวมข่าวนี้กับข่าวลือที่ว่า Square Enix มีเนื้อหาที่จะอัปเดตเข้ามาเรี่อยๆ อีกเป็นระยะเวลา 5 ปี รวมถึงการพิจารณาว่าจะมีการอัปเดตเอนจิ้นกราฟิกของเกม ก็คงทำให้แฟนๆ วางใจได้ว่าจะได้เล่นเกมนี้ไปอีกนานหากเพื่อนๆ ไม่เคยเล่น Final Fantasy 14 ล่ะก็ต้องไปลองเล่นแล้วล่ะ ส่วนตัวผมคิดว่ามันเป็นเกม MMORPG ที่ดีเกมนึงเลยแหละ เพื่อนๆ สามารถเล่น Final Fantasy 14 ได้บน PS4, PS5 และ PC ส่วนตัวส่วนเสริม Endwalker ถ้าแฟนๆ ไม่พรีออเดอร์ก็รอเปิดให้ได้ซื้อกันในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้เลยCredit : GamingBolt
12 Jul 2021
Final Fantasy 14 ทำลายสถิติยอดผู้เล่นออนไลน์บน Steam เพียงเพราะสตรีมเมอร์ชื่อดังเพิ่งเริ่มเล่น!
Asmongold สตรีมเมอร์เกมสาย MMORPG ชื่อดังของโลก ได้ตัดสินใจที่จะเริ่มเล่น Final Fantasy 14 เป็นครั้งแรก ซึ่งเพียงแค่แฟนๆ ของเราทราบว่า Asmongold กำลังเล่น FF14 อยู่ ก็ส่งผลให้คนที่อยากพบกับสตรีมเมอร์ชื่อดังไปรวมตัวกันที่เมือง Limsa Lominsa ซึ่งเป็นเขตเริ่มต้นของบางอาชีพในเกม เพื่อรอต้อนรับเขา โดยเมื่อได้พบกับสตรีมเมอร์ที่ตัวเองรักเหล่าผู้เล่นก็ทำการกดสกิลต่างๆ เพื่อแสดงออกถึงความยินดีกันการเริ่มเล่น Final Fantasy 14 ของ Asmongold ยังส่งผลให้ยอดผู้เล่นเกมบน Steam พุงขึ้นไปสูงถึง 47,542 พร้อมกัน ทำลายสถิติเก่า 41,200 คน ช่วง Shadowbringer มาใหม่ๆ ในปี 2019 ซึ่งนับเป็นเรื่องดีสำหรับแฟนๆ ที่จะอาจจะได้เพื่อนใหม่จากการตามมาเล่นกับสตรีมเมอร์ชื่อดังด้วย สำหรับแฟนๆ ของคุณ Asmongold สามารถดูสตรีมไฮไลท์ของเขาได้ทั้งผ่าน Twitch และ Youtube วันนี้ สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจจะเริ่มเล่น Final Fantasy 14 ถ้ายังไม่แน่ใจว่าควรจะซื้อเกมเลยดีหรือไม่ ก็สามารถเข้าไปทดลองเล่นก่อนได้ โดยเวอร์ชันทดลงจะเปิดให้เล่นจนถึงเลเวล 60 ในทุกสายอาชีพ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เข้าใจเกมได้มากพอสมควรครับCredit : PCGamer
06 Jul 2021
Final Fantasy 14 Endwalker จะมีเนื้อเรื่องยาวกว่า Shadowbringer ประมาณ 30%
Square Enix เคยประกาศออกมาก่อนหน้านี้แล้วว่า Endwalker ซึ่งเป็น Expansion ต่อไปของ Final Fantasy 14 จะเป็นบทสรุปของเรื่องราวเทพ Hydaelyn กับ Zodiark ที่มีบทบาทสำคัญมาตลอดตั้งแต่ A Realm is Reborn โดยเรื่องราวจะจบลงยังไง คงต้องบอกว่าน่าสนใจไม่น้อยเลย  ในส่วนของความยาวเนื้อเรื่องใน Expansion ใหม่นี้ จะยาวกว่า Shadowbringer ประมาณ 30% ด้วยNaoki Yoshida หัวหน้าทีมพัฒนาได้ให้สัมภาษณ์ว่า 'มีหลายครั้งเหมือนกันที่ผมคิดว่า เนื้อเรื่องมันยาวมากเกินไปรึเปล่า เคยมีความคิดจะตัดเนื้อเรื่องบางส่วนออกเหมือนกัน แต่มันทำให้ต้องทำเงินมากขึ้นกว่าเดิมเสียอย่างนั้น สุดท้ายเลยตัดสินใจไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร' แต่ส่วนของ Dungeon ไม่ได้มีการลดจำนวนลง เพื่อลดปริมาณงานที่ทีมพัฒนาต้องทำ ดังนั้นขอให้แฟนๆ หายห่วงได้สุดท้ายคุณ Yoshida ยังยืนยันอีกครั้งว่าทีมพัฒนาใส่ใจในเนื้อเรื่องของ Expansion นี้มากจริงๆ มีฉากสำคัญที่เชื่อว่าจะต้องถูกใจเหล่าแฟน รวมถึงสร้างอารมณ์ร่วมด้วยในส่วนเสริมใหม่นี้ และแน่นอนว่าเกมเพลย์ใหม่ๆ ระบบใหม่ๆ ก็ถูกใส่เข้ามาด้วยในส่วนเสริมนี้ หวังว่าเหล่าผู้เล่นจะได้สนุกไปกับมันช่วงปลายปีนี้<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/zTTtd6bnhFs' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>Credit : https://gamingbolt.com/final-fantasy-14-endwalker-has-more-story-and-cutscenes-than-shadowbringers
25 May 2021
Final Fantasy 14 จับมือกับ Citizen เปิดตัวนาฬิกาข้อมือรุ่น Limited Edition
เรียกได้ว่าทำสินค้าออกมาขายอย่างต่อเนื่องจริงๆ สำหรับ Final Fantasy 14 ที่เมื่อวานเพิ่งจะเปิดตัวกีตาร์สีดำสุดเท่ไป มาวันนี้ก็มีการประกาศเปิดตัวนาฬิกาข้อมือกับ Citizen อีก 2 รุ่นในสีขาว และดำในราคา $349.99 และ $399.99 ตามลำดับ โดยเปิดให้ Pre-Order แล้ววันนี้ที่รุ่นสีข่าวมีราคาถูกกว่าคาดว่าน่าจะเป็นเพราะมีสายเป็นแบบหนังในขณะที่สีดำเป็นแบบโลหะ สำหรับโลโก้ของเกมจะไม่ได้เด่นอยู่บนหน้าปัดของนาฬิกา แต่อยู่บริเวณด้านหลังแทน ทั้งสองรุ่นมีการใส่ Eco-Drive ให้สามารถชาติพลังงานจากแสงได้ด้วย หมดกังวลเรื่องความยุ่งยากไปได้เลยSquare Enix มีแผนจะส่งสินค้าในช่วงปลายปี 2021 นี้ ดังนั้นสินค้าน่าจะมาถึงเพื่อนๆ ที่ Pre-Order ในช่วงต้นปีหน้า สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ผ่านลิงก์ข้างล่างCredit : https://www.siliconera.com/ffxiv-citizen-watches-cost-350-400/
19 May 2021
Final Fantasy 14 เปิดตัวกีตาร์ไฟฟ้าสีดำสุดเท่ วางขายปี 2022
Final Fantasy 14 ถือเป็นไม่กี่เกม MMORPG ที่มีเพลงประกอบที่ไพเราะ โดยสำหรับคนที่ชอบฟังดนตรีจากเกมแล้ว พลาดไม่ได้เลยจริงๆ ที่จะต้องรองฟังดูสักครั้งโดยเฉพาะเพลงจากภาค 14 และสำหรับนักดนตรีโดยเฉพาะมือกีตาร์ ก็พลาดไม่ได้เช่นกันสำหรับกีตาร์ไฟฟ้าสีดำสุดเท่ Official จาก Square EnixFender และ Square Enix จับมือกันผลิตกีตาร์ไฟฟ้า Limited Edition ทีมมาในธีม Final Fantasy 14 ด้วยลวดลาย กับสัญลักษณ์ประจำภาค ทำให้กีตาร์ตัวนี้สวยงามมาก เปิดให้ Pre-Order ผ่านหน้าร้าน Stratocaster ช่วงปลายปีนี้ และส่งออกในช่วงต้นปี 2022สำหรับภายในเกม Final Fantasy 14 เอง ก็มีการเพิ่มกีตาร์ไฟฟ้าตัวนี้เข้าไปด้วยเช่นกัน โดยมาพร้อมกับโทนเสียง 5 แบบ โดยจะมีของตกแต่งบ้านเป็นกีตาร์พร้อมที่ตั้งโชว์ สำหรับคนที่อยากเอาไปใช้ตกแต่งบ้านของตัวเองด้วยเช่นกันCredit : https://www.polygon.com/22440449/final-fantasy-14-fender-guitar-stratocaster-release-date
18 May 2021
Final Fantasy 14: Endwalker วางขาย 23 พฤศจิกายน 2021 ปล่อย Trailer ตัวเต็มแล้ว
ประกาศวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดตัวคลาสใหม่ใน Trailer ตัวเต็มแล้วในไลฟ์สตรีมวันเสาร์ที่ผ่านมา สำหรับ Final Fantasy 14: Endwalker โดยคลาสใหม่ที่จะถูกเพิ่มเข้ามาคือ Reaper คลาส DPS ระยะประชิดที่ใช้อาวุธเป็นเขียวขนาดใหญ่ และสามารถเรียกวิญญาณออกมาช่วยโจมตี หรือร่วมร่างกันเพื่อโจมตีอย่างรุนแรงได้<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/zTTtd6bnhFs' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>สำหรับผู้ที่สนใจใน Collector’ s Edition สำหรับส่วนเสริมใหญ่นี้ภายในกล่องจะได้โมเดลตัวละครหลักคลาส Paladin แถมมาด้วยพร้อมกับชุดรูปภาพบรรยายถึงการเดินทางของ Final Fantasy 14 พร้อมกับตุ๊กตาสุดน่ารัก และกรอบรูปตั้งโต๊ะที่สามารถเปลี่ยนรูปภาพทั้งหมดที่แถมมาใส่เข้าไปได้ ให้แฟนๆ สามารถเอาไปตั้งโชว์สวยๆ ได้ตามที่ต้องการสำหรับแพตช์ 5.5 จะถูกอัปเดตเข้ามาในวันที่ 25 พฤษภาคม 2021 นี้ พร้อมกับตัวเกมเวอร์ชัน PS5 ฉบับสมบูรณ์ที่แก้ไขบัคในช่วง Beta แล้ว Square Enix ได้ประกาศว่าภายในช่วง 6 เดือนก่อนจะถึงวันปล่อยแพตช์ Endwalker จะมีการเพิ่มอาวุธเรืองแสงของ Raid ระดับ Extreme ต่างๆ เข้ามาให้ เพื่อให้ผู้เล่นได้มีอะไรทำในช่วงรอแพตช์ 6.0 ของเกมครับCredit : https://gamingbolt.com/final-fantasy-14-endwalker-releases-on-november-23rd-collectors-edition-revealed
17 May 2021
Final Fantasy 14 เตรียมอัปเดตแพตช์ Death Unto Dawn วันที่ 13 เมษา พร้อมโชว์เกมเพลย์บนเครื่อง PS5
ถือเป็นข่าวดีสำหรับแฟนๆ Final Fantasy 14 ที่จะได้สัมผัสตัวเกมบนเครื่อง PS5 เป็นครั้งแรกในวันที่ 13 เมษายน 2021 นี้ แต่ในวันดังกล่าวนอกจากการเปิดรอบ Open Beta บนเครื่องเจนใหม่แล้ว ยังมีปล่อยอัปเดต 5.5 แพตช์ Death Unto Dawn เพื่อปูทางเข้าสู่ Expansion ใหม่ Endwalker ที่จะมาช่วงปลายปีนี้ด้วยครับจาก Trailer ของแพตช์ดังกล่าว อัปเดต 5.5 ถือได้ว่าเป็นแพตช์ใหญ่มากตัวหนึ่งเลย นอกจากเนื้องเรื่องทางฝั่ง Main Quest แล้วทางฝั่ง Side Quest เองก็มีการเพิ่มเนื้อเรื่องเข้ามามากมายด้วยเช่นกัน อย่างแรกคือ ดันเจี้ยน NieR ลำดับที่ 3 ซึ่งน่าจะเป็นด่านสุดท่ายของ Alliance Raid เลเวล 80 ต่อมา Diamond Weapon จาก FF7 ที่น่าจะเป็นบอสอาวุธอัญมณีตัวสุดท้าย ช่วง 42 วินาที ได้เห็น Scorpion Sentinel จากภาคเดียวกันด้วย ต้องรอดูว่าจะมีบทบาทยังไง<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/VG9VC5B_wRw' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากดูเกมเพลย์บนเครื่อง PS5 ใน Letter from the Producer LIVE Part LXIII คุณ Yoshida ได้มีการโชว์เกมเพลย์บนเครื่องเจนใหม่ให้เราได้รับชมกันด้วย โดยต้องบอกเลยว่าความคมชัดระดับ 4K ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ รายละเอียดของตัวละคร ฉาก น้ำ และอื่นๆ ถือว่าสวยงามเป็นอย่างมาก ในเรื่องของกราฟฺ์กคิดว่าเทียบเท่ากับ Max Setting ของ PC ตอนนี้ครับ<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/4wt4ZoN8YN4?start=4740' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>Credit: https://www.pcgamer.com/final-fantasy-14-update-55-trailer-shows-off-spectacular-raid-and-boss-footage/
05 Apr 2021
FF14 ร่วมแสดงความยินดีกับ WOW กับการมาของ Shadowlands ผ่าน Twitter
การเป็นเกมคู่แข่งในตลาดเดียวกันไม่จำเป็นต้องแข่งขันแย่งลูกค้ากันเสมอไป บางครั้งการแสดงความยินดีกับอีกฝ่ายเมื่อพวกเขาทำอะไรบางอย่างสำเร็จ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้เล่นที่มาจากอีกเกมได้เช่นกัน เหมือนที่ Final Fantasy 14 ร่วมแสดงความยินดีกับการมาของ Expansion ใหม่ Shadowlands ของ World of Warcraft ครับ Final Fantasy 14 ได้โพสต์ข้อความบน Twitter ของตัวเองพร้อมแท็ก World of Warcraft ด้วยข้อความว่า "ยินดีต้อนรับสู่ด้านมืด" (Expansion ล่าสุดของ FF14 มีชื่อว่า "Shadowbringers") และข้อความสั้นที่แสดงความยินดีว่า "ยินดีด้วยกับการวางจำหน่าย Shadowlands อย่างเป็นทางการ" ซึ่งข้อความนี้ดูจะทำให้แฟนๆ จากทั้งสองเกมดูมีความสุขกันมากๆ เนื่องจากมันทำให้มีความเป็นไปได้ที่ทั้ง 2 เกมจะมี Collaboration ร่วมกันเร็วๆ นี้ครับ! Welcome to the Shadows, @Warcraft. Happy #Shadowlands launch! pic.twitter.com/0aj7EXxFrf — FINAL FANTASY XIV (@FF_XIV_EN) November 23, 2020 ถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่ามีแฟนเกมหลายคนเลยที่เรียกร้องให้ทั้งสองมี Crossover หรือ Collaboration ร่วมกัน ซึ่งความต้องการส่วนใหญ่จากแฟน WOW ดูพวกเขาจะอยากได้นก Chocobo ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของ FF มากๆ ในเกม WOW โดยตอนนี้ยังไม่มีการโต้ตอบอะไรกลับมาจาก Twitter ของทาง WOW ต้องรอดูต่อไปว่าทั้งสองจะมีกิจกรรมร่วมกันต่อไปในอนาคตหรือไม่ครับ! Final Fantasy 14 วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 และ PC ส่วน World of Warcraft ก็วางจำหน่ายแล้วบนเครื่อง PC เท่านั้น Credit: GameRant
25 Nov 2020
โลกแฟนตาซีที่รอคุณอยู่! : 10 เหตุผลที่คุณควรเล่น Final Fantasy XIV Online ในเวลานี้!
หมายเหตุ : ผู้เขียน เขียนบทความนี้จากประสบการณ์การเล่น Final Fantasy XIV Online นับตั้งแต่ Open Beta ของ A Realm Reborn จนถึง Expansion ล่าสุด Shadowbringers เป็นเวลาเจ็ดปีเต็ม หมายเหตุ 2 : ในบทความนี้ ถ้ามีจุดที่ตกหล่น หรืออยากจะท้วงติง ถกเพื่อสนทนา ผู้เขียนมีความยินดีอย่างยิ่ง และพร้อมต้อนรับทุกคนที่สนใจ สู่โลกแห่ง Eorzea ด้วยความเต็มใจครับ ในแวดวงวิดีโอเกมยุคโมเดิร์นนั้น อาจจะกล่าวได้ว่า เกมแนว Massive Multiplayer Open-World RPG หรือ ‘MMORPG’ นั้นเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดและมีประวัติศาสตร์ที่มีสีสันที่สุดประเภทหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะมันต้องใช้ทั้งกำลังแรงงานผู้สร้าง ความคิดสร้างสรรค์ และแนวคิดที่จะดึงดูดผู้เล่นให้อยู่ติดและยอม ‘จ่ายเงิน’ รายเดือนเพื่อเล่นมันต่อไป เช่นเดียวกับที่ Final Fantasy XIV เป็น และมันเป็นยิ่งกว่าประวัติศาสตร์ เพราะมันผ่านจุดที่ตกต่ำที่สุด ไม่ใช่แค่ในฐานะตัวเกม แต่ในฐานะแฟรนไชส์ของ Final Fantasy เลยด้วยซ้ำ Final Fantasy XIV เปิดตัวเวอร์ชัน ‘1.0’ ในปี 2010 พร้อมเสียงตอบรับในทางลบอย่างมหาศาล ทั้งการเล่นที่ยากลำบาก เนื้อหาที่ไม่น่าสนใจ และระบบที่ไม่เป็นมิตรกับผู้เล่นเป็นอย่างมาก เสียงทางลบนั้นมากเสียจน Yoichi Wada ประธานบริษัท Square-Enix ในเวลานั้น ต้องออกตั้งโต๊ะแถลงการณ์ขออภัยต่อผู้เล่น และปลด Hiromichi Tanaka โปรดิวเซอร์คนเก่าออก ก่อนที่จะโยกย้าย Naoki Yoshida ที่ในเวลานั้น กำลังง่วนอยู่กับโปรเจ็กต์ Dragon Quest X ให้มาทำหน้าที่ ‘กอบกู้ซาก’ ของ FFXIV ให้กลายเป็น ‘เกมใหม่’ ที่จะเรียกศรัทธาผู้เล่นกลับมาอีกครั้ง (พวกเขาถึงกับทำเหตุการณ์ ‘ระเบิดเซิร์ฟเวอร์’ อย่างยิ่งใหญ่อลังการ จนกลายเป็นเทศกาลประจำปีทุกวันที่ 27 สิงหาคมกันเลยทีเดียว) [caption id="attachment_66005" align="alignnone" width="1024"] เหตุการณ์ The Calamity ที่ Bahamut หลุดจากการจองจำบนดวงจันทร์ Dalamud และเกือบทำลายทั้ง Eorzea ให้เป็นจุลด้วย Teraflare วันระเบิดเซิร์ฟเวอร์ เกมเวอร์ชัน 1.0 ที่อลังการงานสร้างอย่างมาก[/caption] FFXIV กลับมาอีกครั้งในปี 2013 ภายใต้ชื่อ ‘A Realm Reborn’ และที่เหลือคงไม่ต้องสาธยายกันให้มากความ มันค่อยๆ ไต่บันไดความสำเร็จและความยอดเยี่ยมไปทีละขั้น ด้วยการเล่นที่ดีขึ้น กราฟิกที่สวยงามขึ้น และเนื้อหาที่น่าติดตามมากขึ้น จนมาถึงวันนี้ กับ Expansion ตัวที่สามอย่าง Shadowbringers ที่เลยล่วงมาถึงแพทช์ 5.3 ‘Reflections in Crystal’ ที่เหล่าผู้เล่นถึงกับยกให้มันคือ ‘จุดสูงสุด’ ของ FFXIV ในรอบเจ็ดปีที่ผ่านมา ที่เกริ่นมาทั้งหมดนั้น เป็นเพียงการแนะนำในเบื้องต้น และสำหรับผู้เขียนที่เล่นและติดตาม FFXIV มาในตลอดเจ็ดปี ก็ต้องขอบอกว่า ไม่มีช่วงไหนจะเหมาะสมที่จะเข้าสัมผัสความสนุกของ MMORPG อย่าง FFXIV เท่ากับเวลานี้อีกแล้ว ด้วย 10 เหตุผล ที่ยังคงแจ่มชัด และน่าจะทำให้พี่ๆ เพื่อนๆ ผู้อ่านสนใจกันอยู่ไม่น้อย และถ้าบทความชิ้นนี้ ทำให้ใครติดใจ และผูกใจกับโลกแห่ง Eorzea ได้บ้างแล้วล่ะก็ ผู้เขียนก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง -กราฟิกสวยงาม และใช้สเปคเครื่องที่ไม่สูงนัก ข้อดีประการแรกของ FFXIV ในตลอดระยะเวลาเจ็ดปีที่ผ่านมานั้น คงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า มันเป็นเกม MMORPG ที่กินทรัพยากรของ PC ค่อนข้างน้อยมาก ภายใต้งานออกแบบศิลป์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ มีความโดดเด่นชัดเจน และแม้ว่าในปัจจุบัน ทีมพัฒนาจะทำการอัพเกรดเอนจิ้นของตัวเกมให้รองรับสำหรับ DirectX11 เท่านั้น แต่มันก็ยังถือว่าเป็นลิมิตที่ต่ำมากๆ สำหรับ PC สายเล่นเกมโดยทั่วไป (ที่การ์ดจอของใครหลายคนน่าจะรองรับไปถึง DirectX12 และระบบ Ray Tracing กันแล้ว…) มันรันได้อย่างลื่นไหล รวมไปถึงอนิเมชันตัวละครที่หลากหลาย ปรับแต่งตัวละครได้ตามแต่ใจต้องการ ในระดับที่ต่อให้คุณกดสุ่มสร้างตัวละคร มันก็ยังออกมาดูดี คงยากจะหาเกมไหนที่จะมีคุณสมบัติเทียบเคียง FFXIV ได้ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เครื่อง PC ไม่แรงมากนัก และไม่คิดว่าจะสามารถรัน FFXIV ได้อย่างที่ควรจะเป็น ก็อยากจะบอกให้หายห่วง นั่นเพราะว่า… -ระบบ Cross-Play ระหว่าง PC และ Playstation 4 Final Fantalsy XIV ยืนยันตัวตนในฐานะเกม MMORPG แบบ Cross-Play มาตั้งแต่แรกเริ่ม ที่ผู้เล่นบน PC และ Playstation 3 (หรือ Playstation 4 ในตอนนี้) สามารถเล่นร่วมเซิร์ฟเวอร์เดียวกันได้ และหนึ่ง ID ก็สามารถใช้ร่วมกันได้ทั้งสองแพลทฟอร์ม (แต่แน่นอน เนื้อหาเสริม Expansion ก็ยังเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะสามารถเล่นไปได้ถึงระดับไหน…) แน่นอนว่าการเป็นเกม Cross-Play นั้น ทาง SQEN ได้คิดเผื่อสำหรับการควบคุมด้วยจอยแพดเอาไว้เป็นอย่างดี และนี่เป็นหนึ่งในเกม MMORPG ที่ใช้จอยแพดเล่นได้ง่ายมากๆ เกมหนึ่งในตลาดปัจจุบัน หรือถ้าไม่ถนัดจริงๆ คุณจะเอาคีย์บอร์ดกับเมาส์มาเสียบ USB กับเครื่อง Playstation 4 ก็ได้ เพราะมันถูกกำหนดเอาไว้เป็น Native Support โดยไม่ต้องปรับแต่งอะไรให้มากความ เล่นร่วมกันได้ กินสเปคไม่สูง แต่อาชีพที่หลากหลายก็ชวนให้ลายตาอยู่ไม่น้อย นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เย็นใจได้เลย เพราะ… -หนึ่งตัวละคร เล่นได้ทุกอาชีพ FFXIV นำเอาเสน่ห์แบบ Final Fantasy III และ Final Fantasy V เข้ามาผนวกไว้กับตัวเอง เพราะตัวละครของคุณหนึ่งตัว สามารถเป็นได้ ‘ทุกอาชีพ’ เท่าที่ใจอยากจะเป็น แค่เพียงเปิดเควสต์ เปลี่ยนอาวุธหลัก คุณก็สามารถสลับไปเล่นอาชีพอื่นๆ ได้ตามต้องการ วันนี้คุณอยากจะเล่นเป็น Black Mage จอมเวทย์ร่ายคาถา แต่ถ้าเบื่อๆ แล้วอยากไปชนกับศัตรูซึ่งๆ หน้า เปลี่ยนอาวุธมาเป็นขวานแล้วสลับเป็น Warrior ก็ย่อมได้ ในที่นี้ รวมถึงอาชีพสายขุดหาของและสายคราฟท์ ซึ่งอยู่ในกฏเกณฑ์เดียวกัน ทำให้คุณไม่ต้องสร้างตัวละครเป็นสิบๆ เพื่อรองรับกับอาชีพที่แตกต่าง ขอเพียงยังมีช่องว่างใน Armory Slot สำหรับอาวุธ ทุกอาชีพที่คุณปลดล็อคไว้แล้วก็พร้อมจะให้คุณเลือกเล่น แน่นอนว่ามันต้องใช้เวลาในการ Leveling ปลดล็อคความสามารถต่างๆ ตามระยะเวลา แต่ร้านค้า Mogstation ก็มีไอเทมพิเศษแบบจ่ายเงินจริง ให้คุณ skip เลเวลได้ตัวละครพร้อมใช้ในทันที แต่ผู้เขียนก็ไม่ขอแนะนำในหนทางนี้ เพราะ…. -เนื้อเรื่องสุดเข้มข้น ขับเคลื่อนทุกส่วนของตัวเกม Final Fantasy XIV คือเกมที่เป็น Story-Centric โดยแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาหลัก Main Scenario ที่เข้มข้นในตลอดสาม Expansions ก็ดี (สงครามมังกรพันปี Dragonsong War ใน Heavensward, ภารกิจกอบกู้ Ala Mhigo จากจักรวรรดิใน Stormblood และการช่วยเหลือโลกต่างมิติใน Shadowbringers...) หรือแม้แต่เนื้อเรื่องของอาชีพต่างๆ ที่มีหลากหลายครบรส ทั้งดราม่า ตลกโปกฮา ซาบซึ้งใจ และน่าตื่นตาตื่นใจ ไม่เว้นแม้แต่อาชีพสายขุดสายคราฟท์ ที่มีเนื้อเรื่องเฉพาะเป็นของตัวเอง อันที่จริง คุณอาจจะไม่ต้องสนใจเนื้อหาและกด Skip ข้ามไปเลยก็ได้ แต่ขอบอกว่า คุณจะพลาดอรรถรสของตัวเกมไปเกือบครึ่ง ที่ทีมสร้างได้รจนาเรื่องราวไว้ได้อย่างจับใจ โดยเฉพาะกับภาค Shadowbringers ที่ Natsuko Ishikawa มือเขียนบทระดับต้นๆ ของทีม (ผู้เขียนบทอาชีพ Dark Knight อันลือชื่อ) สร้างสรรค์เรื่องราวได้อย่างอลังการ จนผู้เล่นต่างยกย่องให้แพทช์ 5.3 ว่าเป็น ‘จุดสูงสุด’ ของ FFXIV กันเลยทีเดียว (อ้อ แล้วในแพทช์ 5.3 ทีมพัฒนาทำการ ตัดทอน ภารกิจส่วนเกินที่ไม่จำเป็นในช่วง A Realm Reborn ไปเกือบ 30% ทำให้ pace การเล่นเร็วขึ้น สะดวกสบายแก่คนเล่นมากขึ้นด้วย นับเป็นนิมิตหมายที่ดีครับ~) แต่ลางเนื้อชอบลางยา ถ้าเนื้อหาไม่ใช่สิ่งที่คุณสนใจมากมายนักแล้วนั้น…. -เกมมีเมคานิคสุดท้าทาย รองรับกับผู้เล่นทุกระดับ เหตุผลที่ผู้เขียนไม่แนะนำให้คุณทำการ Skip เลเวล และให้เรียนรู้จากเบื้องต้น เพราะ FFXIV ยังเป็น MMORPG ที่ยังยึดกฎ ‘Holy Trinity’ สามโรลหลัก Tank, Healer, DPS และทุกการปะทะ ไม่ว่าจะดันเจี้ยนธรรมดา ไปจนถึง Savage Raid ระดับสุดโหด คุณต้องรู้หน้าที่ของตัวเอง รู้ว่าอาชีพของตัวเองสามารถทำอะไรได้บ้าง และจับมันให้อยู่มือ นี่ไม่ใช่เกมเดินทอดน่องเก็บเลเวลดาดๆ แต่เป็นเกมที่ทุกคนต้องรู้หน้าที่ และหนุนเสริมส่งซึ่งกันและกัน มันมีตั้งแต่ระดับง่ายๆ ผ่านได้อย่างไม่ยากเย็น จนถึงระดับซูเปอร์ Ultimate Raid ที่ท้าทายเหล่ายอดมนุษย์ทีม Raider มือฉมัง (พร้อมของรางวัลเป็นอาวุธเอาไว้ใส่เดินขิง…) เรียกว่าคุณจะไม่ได้อยู่เฉยๆ แน่ๆ ถ้าเดินตามเนื้อหาที่วางเอาไว้ คุณจะได้พบกับทุกการปะทะอย่างแน่นอน แล้วสำหรับผู้เล่นสาย  Casual ล่ะ? คนที่อยากจะเอกเขนกเล่นเกมดูบรรยากาศอย่างสบายใจ หายห่วง นั่นเพราะ… -อีเวนท์ประจำปีไม่มีขาด ถ้าไม่นับ World of Warcraft ที่มีอีเวนท์ประจำปีระดับแน่นอนชนิดแปะเป็น In-Game Calendar แล้วนั้น FFXIV ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่มากหลายด้วยอีเวนท์สนุกๆ ประจำปีให้ได้ร่วมสนุกกัน ไม่ว่าจะเป็นอีเวนท์ข้ามปี อีเวนท์หน้าร้อนชายทะเล อีเวนท์วันเด็กหญิงของญี่ปุ่น อีเวนท์ระลึกวัน ‘ระเบิดเซิร์ฟเวอร์’ อีเวนท์วันฮัลโลวีน จนถึงอีเวนท์วันวาเลนไทน์ มันอาจจะเป็นเพียงส่วนประกอบง่ายๆ ไม่ได้ซับซ้อนอะไร แต่ก็เช่นเดียวกับทุกส่วนของตัวเกม ทุกอีเวนท์ผ่านการเขียนบทและรจนามาได้อย่างพอเหมาะ เล่นได้สนุกและบันเทิงอยู่ไม่น้อย พร้อมของรางวัลตอบแทนอีกมากมาย (อ้อ ผู้เล่นสามารถซื้อแพ็คเกจ แต่งงาน ในเกมได้ด้วย ซึ่งจะได้ของแถมพิเศษอีกต่างหาก~) แล้วนอกเหนือจากอีเวนท์ประจำปี มันมีอะไรที่เกี่ยวโยงกับ Final Fantasy ภาคก่อนๆ หรือเปล่า? เชื่อว่านี่เป็นคำถามที่น่าจะเกิดขึ้น และในความเป็นจริงนั้น… -References กับซีรีส์ Final Fantasy (และซีรีส์เกมอื่น) ใส่มาจนล้นไม่มีขาดตก ด้วยการยืนอายุของซีรีส์ Final Fantasy มากว่าสามทศวรรษ ทำให้ทีมงานสร้างของ XIV มีวัตถุดิบที่จะสามารถจะหยิบจับมาใช้ได้อย่างอยู่มือ ผู้เล่นจะได้พบกับตัวละครที่คุ้นเคย เหตุการณ์ที่คุ้นเคย จนถึง Dungeon และบอสที่คุ้นเคยเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Raid แบบ 24 คนไต่ Crystal Tower จากภาคสาม, การใส่ดันเจี้ยนที่พ้องเนื้อหาไปกับโลก Ivalice ของ Final Fantasy Tactics และ Final Fantasy XII หรือการ Collaboration ล่าสุดกับ Yoko Taro กับซีรีส์ Nier : Automata ที่กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้นภายใต้ชื่อ YoRHa: Dark Apocalypse เรียกว่าคนที่ติดตามซีรีส์ Final Fantasy มาโดยตลอด จะต้องมีจุดที่ต้องโดนใจเข้าสักที่สองที่อย่างแน่นอน แต่เนื้อหาและการ Collaborate ที่มากมายอาจจะไม่เพียงพอ เพราะการสร้างเกมนั้น ‘ดนตรี’ ก็เป็นส่วนประกอบสำคัญ นั่นทำให้… -ดนตรีในเกมนี้คืออลังการศิลป์อย่างแท้จริง จุดเด่นหนึ่งของ FFXIV ที่มีมาในตลอดทุก Expansions นั้น คือดนตรีประกอบ ที่ได้ทั้ง Nobuo Uematsu ปรมาจารย์รุ่นเก๋าแห่ง SQEN มาร่วมช่วยสร้าง ประกอบกับฝีมือของ Masayoshi Soken โปรดิวเซอร์เพลงหลักที่ทำดนตรีให้กับทุกการปะทะร่วมกับวง The Primals และเพลงเปิดอันยิ่งใหญ่ในเสียงร้องระดับสวรรค์สร้างของ Susan Calloway ชนิดที่ทุกเพลง สามารถรวมฮิตออกขายซื้อมาฟังได้แบบไม่เสียดายเงิน มันคือการกลั่นทุกประสบการณ์ทางดนตรีของทีมสร้างอย่างไม่มีกั๊กไม่มีเม้ม ที่พร้อมจะทำให้มันสุดยอดยิ่งๆ ขึ้นไป แต่เกมที่หนักเนื้อหาและแน่นคอนเทนต์ขนาดนี้ เราจะไว้ใจได้แค่ไหนว่าพวกเขาจะนำเสนอออกมาได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย หายห่วงครับ นั่นเพราะ… -คุณภาพคอนเทนต์เกมไม่เคยตก ด้วยระบบ Subscription-Based FFXIV เป็นหนึ่งในไม่กี่เกม MMORPG ที่กล้ายืนหยัดด้วยระบบ ‘จ่ายรายเดือน’ แบบ Subscription-Based ซึ่งทีมสร้างก็ไม่ทำให้ผู้เล่นผิดหวัง เพราะพวกเขามีตารางที่ชัดเจนในการปล่อยคอนเทนต์ตอนใหม่ๆ และเพิ่ม Features ที่น่าสนใจชนิดที่ไม่มีขาด มีอะไรให้ทำทั้งสาย Casual และ Hardcore แน่นอนว่าในแพทช์ล่าสุด 5.3 อย่าง Reflections in Crystal มีอุปสรรคจากวิกฤติ COVID-19 ที่ทำให้พวกเขาต้องปล่อยมันออกมาช้ากว่ากำหนดถึงเดือนครึ่ง (และกระทบถึงแพทช์อื่นๆ และการเปิดตัว Expansion ใหม่…) เพราะต้องจัดระบบการทำงานเพื่อป้องกันสุขภาพของทีมงาน แต่ Naoki Yoshida ก็ยืนยันผ่านรายการ Live Letter แล้วว่า เขาจะไม่ยอมประนีประนอมคุณภาพเด็ดขาด ทุกอย่างต้องไปให้ถึงจุดสูงสุดแม้จะต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นก็ตาม ซึ่งในตลอดเจ็ดปี มันก็เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่า ทีมสร้างนั้น ‘เอาจริง’ และทุ่มใส่เต็มเม็ดแบบไม่มีอะไรจะเสีย (และดีขึ้น ดีขึ้นเรื่อยๆ…) และแน่นอน ด้วยระบบการจ่ายเงินเช่นนี้ ทำให้ FFXIV ไม่มีอาการแบบ ‘Pay to Win’ หรือเทพทรูใดๆ ทั้งสิ้น มาถึงจุดนี้ ถ้าพี่ๆ เพื่อนๆ รู้สึกว่าการจ่าย ‘รายเดือน’ นั้นเป็นสิ่งที่ผลักไสไม่ให้เข้ามาสัมผัสตัวเกม และรู้สึกว่า ไปหาเกมที่เล่นได้ฟรีมาเล่นไม่ดีกว่าหรือ ก็ขอบอกว่า ... -ตอนนี้ Free-Trial ได้ถึง Level 60 และเนื้อหาของ Expansion แรกอย่าง Heavensward ตั้งแต่แพทช์ 5.3 ‘Reflections in Crystal’ นั้น ทางทีมพัฒนาเปิดกว้างและให้พื้นที่สำหรับคนที่อยากลองเล่นได้เข้ามาสัมผัสได้นานขึ้น เพราะตอนนี้ ตัวเกมหลักและ Expansion ตัวแรกอย่าง Heavensward สามารถเล่นได้ ‘ฟรี’ จนถึงเลเวล 60 ซึ่งพี่ๆ เพื่อนๆ สามารถไปหาโหลดลงทะเบียนได้ที่ https://freetrial.finalfantasyxiv.com/gb/ หรือบนระบบ Playstaion 4 ได้ที่ Store ของโซนอเมริกาและยุโรป ภายใต้เงื่อนไขสามประการ คือ… -ตัวละคร Free-Trial จะมีเงินติดตัวได้สูงสุด 300,000 Gil และใช้ Marketboard ซื้อขายไม่ได้ (ป้องกันการถล่มตลาด) -ตัวละคร Free-Trial ไม่สามารถ Add เพื่อนได้ด้วยตนเอง (แต่ให้ฝั่งผู้เล่น Add และชวนเข้าปาร์ตี้ได้) -ตัวละคร Free-Trial จะไม่สามารถรับ Tomestone (หน่วยเงินหลัง End-Game) ใดๆ ได้ ก็เป็นที่เข้าใจกันได้ แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว อิสระทั้งหมด คุณจะเล่นเป็นเผ่าไหน อาชีพไหน ไม่มีจำกัด ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีมากๆ สำหรับคนที่อยากลองสัมผัส แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเล่นได้นานแค่ไหน และถ้าเล่นตัว Free-Trial แล้วติดใจ คุณสามารถซื้อตัวเกมมาเปลี่ยนสถานะเป็น Full Subscription เล่นต่อได้ทันทีโดยไม่เสีย Progress เดิมที่ทำไว้ นับว่า SQEN ใจกว้างในการนี้พอสมควรทีเดียว Final Fantasy XIV ก้าวข้ามผ่านปีที่ 7 เข้าสู่ปีที่ 8 อย่างท้าทาย จากวันที่มันเป็นเพียง ‘ซากแห่งความอัปยศ’ ของ SQEN ทีมงานของ Naoki Yoshida กอบกู้มันจากเถ้าถ่าน สรรสร้างอย่างประณีต และใส่หัวใจให้เต็มร้อยกับผลงานชิ้นนี้ และผู้เขียนก็เชื่อว่า มันจะเป็นหนึ่งในการผจญภัยที่ยาวนานและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับปณิธานของ Yoshida ที่กล่าวว่า เขาอยากทำเกมนี้ต่อไปอีกระดับสิบปี จนกว่าชีวิตจะหาไม่…   ‘และโลกแฟนตาซีอันรุ่มรวย สนุกสนาน และหลากหลายนี้ กำลังรอให้คุณไปสัมผัสอยู่ ไม่มีจังหวะไหนที่ดีไปกว่าตอนนี้อีกแล้วล่ะครับ!’
01 Sep 2020
Final Fantasy 14 เตรียมย่อเนื้อเรื่องช่วงแรกให้กระชับ และเล่นงายขึ้น!
Final Fantasy 14 เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเกม MMO ที่ทำเนื้อเรื่องออกมาได้ยอดเยี่ยมมากๆ เกมหนึ่ง แต่ในช่วง 50 เลเวลแรกนั้น เรียกได้ว่ายังคงมีเควสเนื้อเรื่องที่สิ้นเปลือง และยาวเกินไปมากๆ ถ้าเทียบกับ 3 Expansion หลังที่ออกตามมา แต่จากไลฟ์สตรีมประกาศอัปเดตแพทช์ 5.3 ที่กำลังจะมีการอัปเดตในช่วงฤดูร้อนนี้ ก็ทำให้เราทราบว่า จะมีการย่อเนื้อเรื่องช่วงแรกของเกมให้กระชับ และเล่นง่ายขึ้นครับ! ซึ่งจากรายงานของเว็บไซต์ PCGamer ทำให้เราทราบว่าเควสเนื้อเรื่องของเกมจะถูกตัดออกไปประมาณ 13 เปอเซ็น และมีการปรับปรุงเควสเกือบทั้งหมดให้สามารถทำได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม Exp ที่ได้ รวมไปจนถึงของรางวัลเป็น Gear ต่างๆ มากขึ้น เพื่อให้ผู้เล่นสามารถไปจนถึงเลเวล 50 ได้ง่ายกว่าเดิม นอกจากนี้ผู้เล่นยังจะสามารถใช้สัตว์บินได้ใน แมพ 50 เลวลแรกแล้วเช่นกัน อีกทั้งเควสสำหรับการทำให้สัตว์บินได้ จะถูกทำเป็นเควสหลักแทนที่จะเป็นเควสรอง เพื่อให้ผู้เล่นจะได้ไม่พลาดเควสที่สำคัญนี้ครับ แน่นอนว่านี้ไม่ใช้ทั้งหมดที่จะถูกอัปเดตในแพทช์ 5.3 ที่มีชื่อว่า Reflections in Crystal ในส่วนของรายละเอียดอื่นๆ สามารถเข้าไปดูได้ผ่านลิงก์นี้เลยครับ Final Fantasy 14 วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั้งบน PC  และ PS4 Credit: PCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
27 Apr 2020
งานนี้ต้องมีเพื่อนลุย! กับเกม MMORPG น่าลองแห่งปี 2020
เราคงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า โลกแห่งเกมออนไลน์ขนาดใหญ่หรือ ‘MMORPG’ นั้น สนุกสนานและน่าลิ้มลองแค่ไหน และเติบโตต่อยอดจากจุดเริ่มต้นของมันในยุกแรกเริ่มมาไกลเพียงใด และเมื่อวิทยาการทางด้านการติดต่อสื่อสารพัฒนาให้มีความสะดวกมากขึ้น ก็ยิ่งเป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้ผู้พัฒนาหลายเจ้าตบเท้ากันเข้ามาสู่ตลาดแห่งเกมออนไลน์อย่างคึกคัก แต่ก็เช่นเดียวกับธรรมชาติของมัน ที่การเล่นเกม MMORPG เกมหนึ่งจะต้องทุ่มเทเวลาให้กับมันเป็นอย่างมาก (เพราะการแตะแค่ผิวเผินนั้นเป็นเพียงส่วนหน้าของเค้กแสนอร่อยชิ้นนี้เท่านั้น…) เราก็เลยขออาสาแนะนำ 5 เกม MMORPG ฝั่งตะวันตกที่ยังคงน่าเล่นน่าลิ้มลองในปี 2020 ไว้เป็นตัวเลือกให้คุณผู้อ่านได้พิจารณากันดูสักครั้ง World of Warcraft ปีที่วางจำหน่าย : พฤศจิกายน 2004 ผู้พัฒนา : Blizzard Entertainment ยังคงยืนหนึ่งในสายเกม MMORPG ที่ยาวนานมากว่า 15 ปี ผ่าน Expansion มาแล้วถึง 7 ตัว และภาคเสริมตัวล่าสุดอย่าง Shadowlands ก็กำลังจะวางจำหน่ายในปีนี้ ด้วยยอดผู้เล่นหลักสิบล้านคน และคอนเทนต์ที่ผ่านการสะสมมาอย่างมากมายในรอบหลายปีที่ผ่านมา ในจักรวาลของ Warcraft ซีรีส์คู่บุญของค่าย ที่จะรับประกันความสนุกได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เล่นหน้าเก่าสิงห์สนาม หรือหน้าใหม่ที่อยากจะเข้ามาลิ้มลองรสชาติแห่ง MMORPG ระดับตำนานเกมนี้ ไม่ว่าคุณจะชอบการสวมบทบาทแบบ PvE หรือปะทะในสนามรบแบบ PvP เกมนี้มีทุกรูปแบบให้คุณได้เล่นอย่างที่ใจปรารถนา จุดเด่น : คอนเทนต์มากมายมหาศาลให้เล่นกันไม่หวาดไม่ไหว, ระบบ User Interface ที่สามารถปรับแต่งได้อย่างไร้ขีดจำกัด, เนื้อหาที่ครอบคลุมยาวนานมากว่า 15 ปีและไม่มีท่าทีว่าจะจบไปได้ง่ายๆ, ตัวเกมง่ายต่อการเข้าถึงและเป็นมิตรกับผู้เล่นหน้าใหม่อย่างมาก ข้อสังเกต : แม้จะรั้งตำแหน่งแถวหน้าของเกมแนว MMORPG แต่ยอดผู้เล่นที่ลดลงอย่างต่อเนื่องและการปรับของกราฟิกแบบการ์ตูนนั้นก็เป็นสัญญาณความเก่าอายุที่ไม่สู้ดีสักเท่าไร ภายใต้การแข่งขันที่โรมรันดุเดือดในสนามออนไลน์ ประกอบกับชื่อเสียของ Blizzard Entertainment ในรอบปีที่ผ่านมา ก็ยิ่งผลักให้ผู้เล่นหน้าเก่าออกห่างมันมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ Final Fantasy 14 ปีที่วางจำหน่าย : 2009 (Legacy) , 2013 (A Realm Reborn) ผู้พัฒนา : Square-Enix อดีตผลงานเกม MMORPG สุดอัปยศในประวัติศาสตร์ สู่การผงาดและก้าวมาเป็นเพชรน้ำเอกแหล่งรายได้หลักของบริษัท Square-Enix อีกหนึ่งผลงานจากญี่ปุ่นคุณภาพระดับสากลที่ปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุก Expansion ที่ผ่านไป จนมาถึงตัวล่าสุด Shadowbringers ที่คว้าคะแนนเฉลี่ยที่ 91 จาก Metacritics สูงที่สุดเท่าที่เคยได้มา บวกกับยอดผู้เล่นที่ 16 ล้านคนและยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการ Cross-Platform ระหว่างพีซี แมค และ PS4 ก็น่าจะรับประกันอนาคตที่สดใสของโลกแฟนตาซีแห่งนี้ได้ค่อนข้างแน่ จุดเด่น : เนื้อหาเข้มข้นลุ่มลึก ต่อยอดเชื่อมโยงกันทั้งเนื้อหาหลักและรอง, หนึ่งตัวละครเล่นได้หลายคลาสสลับสับเปลี่ยนได้ตามที่ชอบใจ, ระบบ Crafting ที่เล่นได้สนุก, กราฟิกสวยงามสมยุค, เพลงประกอบสุดเฉียบ, หนึ่ง Account เล่นข้ามแพลทฟอร์มได้ ข้อสังเกต : เกมนี้เน้นความสำคัญของเนื้อเรื่องเป็นแก่นหลัก นั่นหมายความว่าสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ คุณจะต้องเริ่มต้นเรื่องราวตั้งแต่ A Realm Reborn ไล่ไปอีกสาม Expansion ซึ่งเป็นภาระที่หนักหนาอยู่ไม่น้อย แม้ว่าทาง SQEN จะวางจำหน่ายไอเทมสำหรับ skip เนื้อหา และสัญญาว่าจะปรับปรุงความกระชับของเนื้อเรื่องช่วงต้นในแพทช์ 5.3 ที่กำลังจะออกก็ตาม แต่เราก็อยากให้คุณได้ลองเล่นมันด้วยตนเองอยู่ดีเพื่อสัมผัสความเข้มข้นของของแต่ละ Expansion และเรียนรู้การเล่นในแต่ละคลาสไปในตัว Star Wars: The Old Republic ปีที่วางจำหน่าย : 20 ธันวาคม 2011 ผู้พัฒนา : Bioware EA อีกหนึ่งผลงานเกมออนไลน์ที่แม้จะเปิดตัวไม่สวยนักในช่วงแรกที่วางจำหน่าย (ที่เป็นแบบจ่ายรายเดือน Subscription-Based) แต่หลังจากเปลี่ยนเป็นแบบ Free-to-Play แล้ว เกมก็ได้รับความนิยมมากขึ้นตามลำดับ นั่นเพราะมันคือส่วนผสมของเกม MMORPG ชั้นดีด้วยคลาสตัวละครที่หลากหลายพร้อมเรื่องราวและ NPC เฉพาะตัวให้การเล่นแต่ละรอบไม่ซ้ำกัน และเรื่องราวในจักรวาล Star Wars ยุค Old Republic ที่ทวีความเข้มข้นขึ้นในแต่ละภาค โดยเฉพาะกับภาคเสริมอย่าง Knights of the Eternal Throne และ Onslaught ที่ขนเอาตัวละครสุดคลาสสิคของเกม Knights of the Old Republic มาร่วมด้วย ถ้าได้ลองสักครั้ง เป็นต้องติดใจ จุดเด่น : คลาสตัวละครหลากหลายพร้อมเนื้อหาเฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำกัน, ระบบ Free-to-Play ที่ไม่ Pay-to-Win ที่ยอดเยี่ยมและน่าสนใจ, เนื้อเรื่องเข้มข้น จับอารมณ์และแก่นของความเป็น Star Wars ได้อย่างเต็มเปี่ยม ข้อสังเกต : ตัวเกมที่ค่อนข้างเข้าถึงยากสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ และข้อจำกัดสำหรับผู้เล่นสายฟรีที่ยังน่ากังขาอยู่ไม่น้อย โชคดีที่การสมัครเป็นสมาชิกจ่ายครั้งเดียว สามารถให้สิทธิพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาได้ในอีกระดับแม้จะไม่ได้จ่ายต่อแล้วก็ตาม The Elder Scrolls Online (ESO) ปีที่วางจำหน่าย : 4 เมษายน 2014 ผู้พัฒนา : Zenimax Online Studios (จัดจำหน่ายโดย Bethesda Softworks) อีกหนึ่งเกม MMORPG แบบ Free-to-Play ชั้นเยี่ยมที่เราอยากจะแนะนำ ด้วยโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่ง Tamriel และการเล่นที่อาศัยทักษะการมีส่วนร่วมจนเกือบจะกลายเป็นเกมแอ็คชัน ผสมเข้ากับระบบสเกลเลเวลที่ทำให้ผู้เล่นสามารถไปได้ในทุกพื้นที่โดยไม่จำกัดผ่านการปรับปรุงเป็น ESO: Tamriel Unlimited เพิ่มความอิสระเป็นอย่างสูง บวกความลื่นไหลของคลาสและระบบการ Crafting ที่ยอดเยี่ยมจนเป็นที่จับตามอง ไม่มีครั้งไหนที่ตำนานแห่งโลกแฟนตาซีของ Bethesda อายุกว่าสองทศวรรษจะโลดแล่นได้ราวกับมีชีวิตได้เท่านี้อีกแล้ว จุดเด่น: คลาสตัวละครลื่นไหล รองรับการเล่นได้หลากหลายรูปแบบ, โลกอันกว้างใหญ่ไพศาลให้ออกสำรวจและค้นหา, ระบบ Crafting สุดสนุก, การเล่นแบบกึ่งเกมแอ็คชันรวดเร็วและท้าทาย, ระบบ Free-to-Play ที่ออกแบบมาดี ข้อสังเกต : การซื้อ The Elder Scrolls Online ผ่านระบบ Steam นั้นมีหลายเวอร์ชันอยู่มาก มีตั้งแต่ตัวหลักอย่างเดียวจนถึงแพ็คเกจที่รวมภาคเสริมล่าสุดอย่าง Greymoor ที่จะวางจำหน่ายในวันที่ 2 มิถุนายนที่จะถึงนี้ อาจก่อให้เกิดความสับสน แต่สำหรับผู้เล่นที่ยอมจ่ายรายเดือน จะได้รับสิทธิในการเข้าถึงทุกคอนเทนต์ได้โดยไม่ต้องห่วงกังวลหรือซื้อเพิ่มแต่อย่างใด (หรือจะใช้หน่วยเงินในเกมเพื่อปลดล็อคภาคเสริมก็ได้) EVE Online ปีที่วางจำหน่าย : 6 พฤศภาคม 2003 ผู้พัฒนา : CCP Games อีกหนึ่งตำนานแห่งเกม MMORPG สาย Sandbox สำหรับผู้เล่นระดับฮาร์ดคอร์ที่ยืนยงคงกระพันมาถึง 16 ปีเต็ม ผลงานจากทีมพัฒนาสัญชาติไอซ์แลนด์เกมนี้ คือนิยามแห่งความเป็นอิสระแห่งจักรวาลที่แท้จริง ทุกสิ่งถูกขับเคลื่อนด้วยผู้เล่น ตั้งแต่กิจกรรม การค้าขาย การแลกเปลี่ยนทรัพยากร ไปจนถึงการก่อสงครามตั้งแต่ระดับเล็กจนถึงสเกลใหญ่เศษยานกระจายในห้วงอวกาศ และสำหรับใครที่อยากลอง ตัวเกมยังเพิ่มเวอร์ชัน Free-to-Play เข้ามาในปี 2016 แต่ลดฟีเจอร์บางอย่างลงให้พอชิมลางกันก่อนตัดสินใจ จุดเด่น : ห้วงอวกาศอิสระอย่างไร้ขีดจำกัด, มีกิจกรรมให้ทำอยู่มากมาย, กราฟิกสวยงามล้ำหน้าเกม MMORPG ในสายเดียวกัน, การปรับแต่งยานที่ลงลึกถึงรายละเอียดทุกสเกล, มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากทีมสร้าง ข้อสังเกต : ที่กล่าวว่าเกมนี้คือชิ้นงานสำหรับฮาร์ดคอร์ไม่ใช่คำขู่ เพราะที่นี่คือ ‘แดนเถื่อน’ ขนานแท้ ด้วยระบบเกมที่รันโดยผู้เล่นเป็นตัวขับเคลื่อนทุกกิจกรรม ทำให้พื้นที่นอกโซนปลอดภัยช่วงเริ่มต้นกลายเป็นอาณาเขตมิคสัญญีที่หน้าใหม่อาจโดนระเบิดยานตายคาอวกาศเอาได้ง่ายๆ หรือการซื้อขายที่มีการ Scam ไปจนถึงสงครามจารชนทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามที่คิดมูลค่าความเสียหายเป็นหน่วยเงินจริงๆ สูงจนน่าตกใจ นี่จึงไม่ใช่เกมที่เหมาะไว้เล่นสำหรับการผ่อนคลาย แต่ก็เข้มข้นและน่าหาโอกาสลองดูสักครั้ง โลกแห่ง MMORPG ไม่ว่าจะชิ้นงานใด ต่างมีจุดเด่นที่เป็นเสน่ห์ในตัวของมันเอง เราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สำหรับตัวเลือกที่เรานำมาเสนอทั้ง 5 ชิ้นงานนี้ จะกระตุ้นความสนใจของคุณผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย และถ้าใครมีเกมออนไลน์ที่ชอบเล่น อย่าลืมมาแลกเปลี่ยนบอกเล่าให้เราฟังกันบ้าง บางที มันอาจจะกลายเป็นโลกใบใหม่ของใครต่อใครหลายคนโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้~
03 Mar 2020
ชมกันให้เต็มอิ่ม! คลิปเกมเพลย์การล่า Behemoth จาก Monster Hunter: World
ผู้พัฒนาเกม Capcom ปล่อยคลิปเกมเพลย์การล่า Behemoth สัตว์ประหลาดใหม่ใน Monster Hunter: World ที่มาจากการร่วมมือกับอีกเกมใหญ่ อย่าง Final Fantasy XIV ในการไลฟ์สด Monster Hunter: World Hunting Kanshasai / Championship Finals 2018 เมื่อวานที่ผ่านมา สำหรับเพื่อนๆ ที่รอออกล่าเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ จะสามารถเล่นได้ในวันที่ 1 สิงหาคม ผ่านทาง PS4 และ Xbox One ส่วนแฟนเกม PC จะต้องรอจนกว่าตัวเกมจะปล่อยลง Steam ในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ https://www.youtube.com/watch?v=ZXjnySBKgrU ทั้งนี้เพื่อนๆ คงต้องรอติดตามกันอย่างใกล้ชิดว่า กิจกรรมที่ทางทั้งสองเกมร่วมมือกันจัดขึ้นนั้นจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ และยังไม่มีข้อสรุปออกมาแน่นอนว่าเจ้า Behemoth จะอยู่ในเกม Monster Hunter: World แบบถาวรหรือไม่ หากมีอะไรเพิ่มเติมเราจะมาอัพเดทให้เพื่อนๆ ได้รู้กันอย่างแน่นอน
16 Jul 2018
Behemoth จาก Final Fantasy 14 เตรียมบุก Monster Hunter: World (Trailer)
ผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายเกม Capcom เผยเทรลเลอร์ใหม่ของการจับมือกันระหว่างเกม Monster Hunter: World และ Final Fantasy 14 โดยจะมี Behemoth สัตว์ประหลาดอันโด่งดังจาก FF14 เป็นดาวเด่นและเป็นอีเว้นท์หลัก ให้ผู้เล่นทั้งหลายสามารถล่าได้ จุดเด่นของ Behemoth ที่ผู้เล่นจะสามารถสังเกตอย่างแรกเลยก็คือ ขนาดสุดมหึมาของมัน เมื่อเทียบกับขนาดของเจ้าสัตว์ประหลาดแล้ว ผู้เล่นจะสูงเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของเข่าของเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้เท่านั้น ส่วนสถานที่ที่จะเจอ Behemoth ได้ก็คือใน Elders Recess ซึ่งเป็นสถานที่ที่ Elder Dragons ส่วนใหญ่อยู่กัน ในด้านการโจมตี นอกจาก Behemoth จะใช้ท่าตะปบศัตรูเหมือนมอนสเตอร์ทั่วไปแล้ว ยังมีท่าที่เป็นจุดเด่นคือการเรียกฝนดาวตกลงมาโจมตีใส่ผู้เล่นอีกด้วย หากดูจากตอนจบของเทรลเลอร์แล้ว Behemoth ยังสามารถเรียกดาวตกยักษ์ที่จะทำลายทุกอย่างให้ราบคาบภายในครั้งเดียว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือ ชุดเกราะและอาวุธที่ผู้เล่นสามารถคราฟท์ได้จากของที่ดรอปหลังกำจัดสัตว์ประหลาด ซึ่งของได้เหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นเซ็ตใหม่ทั้งหมดที่ยังไม่เคยมีมาก่อนในเกม ทั้งนี้การอัพเดทยังรวมถึงการเพิ่มเซ็ตเกราะ the Drachen, the Gae Bolg insect glaive และ the Dragoon ด้วย นอกเหนือจากนี้ยังมีเซ็ตชุดเกราะสำหรับคู่หูคู่ใจของเหล่านักล่า Palico และตัวเกมยังเพิ่มตะบองเพชรจิ๋วจาก Final Fantasy ที่จะคอยสะบัดหนาม ทำให้การล่าสัตว์ประหลาดของเหล่าฮันเตอร์ยากขึ้นไปอีกขั้น ทั้งนี้ยังไม่มีกำหนดแน่ชัดว่ากิจกรรมที่ทั้งสองเกมจับมือกันจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ และยังไม่ทราบแม้กระทั่งว่าเจ้า Behemoth นี้จะคงอยู่ใน Monster Hunter: World ต่อไปหลังจากจบกิจกรรมหรือไม่ เพื่อนๆ คงต้องรอฟังข่าวกันอีกทีหลังจากเริ่มกิจกรรมในที่วันที่ 1 สิงหาคม https://www.youtube.com/watch?v=VxywHrLB9iU ปล. กิจกรรมฟรีนี้จะยังมีแค่เวอร์ชั่น PS4 และ Xbox One ก่อนเท่านั้น ในส่วนของเวอร์ชั่น PC น่าจะต้องรอไปก่อนจนกว่า Monster Hunter: World จะถูกปล่อยออกมาในวันที่ 9 สิงหาคมก่อนนะจ๊ะ
13 Jul 2018
Final Fantasy XIV ปล่อยเทรลเลอร์ใหม่ จับมือ Monster Hunter World เร็วๆ นี้!
เมื่อคืนนี้ในงานแถลงข่าว E3 2018 ของ Square Enix ได้มีการประกาศถึงเกมใหม่ๆ ที่ทางค่ายจำปล่อยออกมาให้ผู้เล่นเร็วๆ นี้ สำหรับแฟนๆ เกมออนไลน์ Final Fantasy XIV ทาง Square Enix ก็ได้นำเทรลเลอร์ใหม่ของภาคเสริมที่กำลังจะมาถึงอย่าง Under the Moon Light ที่จะทำการเพิ่มเควสเนื้อเรื่องใหม่ๆ เข้าไปด้วย! โดยอัพเดทนี้จะฟรีสำหรับผู้เล่นที่ซื้อภาคเสริม Stormblood แล้วทุกคนเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ ทางผู้พัฒนายังได้ปล่อยคลิปสั้นๆ เกี่ยวกับการร่วมมือระหว่างค่ายและเกม Monster Hunter World อีกด้วย! โดยนอกจากจะได้เจอเจ้าแมวผู้ช่วย Palico แล้วยังดูเหมือนว่าผู้เล่น Final Fantasy XIV จะได้ล่าแย้สุดคลาสสิคอย่างราธาลอส (Rathalos) กะเค้าบ้างแล้ว!
11 Jun 2018
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "Final Fantasy 14"
Final Fantasy 14: Endwalker ปล่อยตัวอย่างใหม่ เผยรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่!!
ถ้าพูดถึงเกมแนว MMORPG ที่ดีที่สุดล่ะก็ ผมคิดว่าสิ่งแรกที่เพื่อนๆ นึกถึงน่าจะเป็น Final Fantasy 14 แน่นอน ตัวเกม Final Fantasy 14 นั้นได้ปล่อยส่วนเสริมของเกมที่เพิ่มความสนุกไว้แล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งที่เพิ่มเข้ามาคร่าวๆ จะมีเป็นเนื้อเรื่องกับเกมเพลย์ใหม่ๆ ซึ่งดูเหมือนว่าในส่วนเสริม Endwalker ที่กำลังจะมานี้จะเป็นส่วนเสริมที่ใหญ่ที่สุด โดยทาง Square Enix ก็ได้ปล่อยตัวอย่างใหม่ให้พวกเราได้เห็นรายละเอียดต่างๆ ที่กำลังจะมาในส่วนเสริมนี้ จะมีอะไรบ้างนั้น สามารถรับชมได้ด้านล่างนี้เลยครับในตัวอย่างมีความยาวอยู่ที่ 18 นาทีโดยในนั้นได้เผยการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของแต่ละอาชีพโดยรวมจะมี White Mage, Black Mage, Dragoon, Paladin, Bard, Dancer, Machinist, Reaper ซึ่งเป็นอาชีพใหม่และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ที่ถูกเปลี่ยนมากที่สุดก็คงเป็นอาชีพ Summoner นี่แหละ ตอนนี้อาชีพ Summoner ถูกปรับให้เกี่ยวข้องกับการอัญเชิญ Primals มากขึ้นซึ่งน่าจะถูกใจผู้เล่นหลายคนเลยแหละ ส่วนเสริม Endwalker ของ Final Fantasy 14 จะวางขายในวันที่ 23 พฤศจิกายน โดยจะวางขายให้กับเครื่อง PS5, PS4 และ PC เพื่อนๆ ที่อยากได้ตัวอย่างนี้ล่ะก็อย่าลืมเก็บเงินซื้อกันนะครับCredit : GamingBolt
20 Sep 2021
ตำราอาหารของ Final Fantasy 14 จะวางจำหน่ายในปลายปีนี้ รวมกว่า 70 เมนู!
เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้มีการประกาศเกี่ยวกับ Cookbook หรือตำราอาหารของ Tomb Raider ภายในงานช่วงเดือนมีนาคมของทาง Square Enix ที่ทำให้เราพอจะรู้ได้ว่าเมนูอาหารของ Lara Croft ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูสำหรับรองท้องเสียมากกว่า ทำให้ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเธอจึงมักจะเดินทางไปอย่างยากลำบากอยู่เสมอ  อย่างไรก็ดีตำราอาหารของ Final Fantasy 14 ที่เราได้ค้นพบเมื่อวานนี้นั้น เต็มไปด้วยเมนูอาหารสุดหรูหรา ชวนท้องร้องกว่า 70 เมนู! ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมของ Eorzea จากโพสต์ Twitter ของผู้ใช้ชื่อว่า Wario64 ที่ได้ทำการขุดค้นฐานข้อมูลของ Amazon และพบเข้ากับตำราอาหารของเกม ซึ่งพร้อมให้สั่งซื้อล่วงหน้าแล้วในราคา $35 หรือประมาณ 1,142.40 บาท เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งน่าสะสมสำหรับแฟนๆ เกม Final Fantasy 14 เลยทีเดียว โดยในเว็บไซต์ก็ได้มีการให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวตำราอาหารนี้ว่า“เป็นการท่องไปในโลกแห่งการปรุงอาหารอันอุดมสมบูรณ์ของ Final Fantasy 14 ที่จะนำเสนอเมนูยอดนิยม วัตถุดิบ กลวิธีในการปรุง ไปจนถึงเคล็บลับความอร่อยจากทั่วทั้ง Hydaelyn และ Norvrandt ทั้งการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่สดใสด้วย Farmer’s Breakfast อาหารแสนเรียบง่ายยอดนิยม การได้ลิ้มรสขนมปังของอัศวินแห่ง Coerthas หรือการดำดิ่งลงสู่รสชาติอันนุ่มลึกจาก Rolanberry Cheesecake ของ La Noscea เป็นต้น”โดยจากภาพที่ Wario64 อัปโหลดเอาไว้ ตำรับอาหารของ Final Fantasy 14 เล่มนี้ก็จะวางจำหน่ายในวันที่ 9 พฤศจิกายน ซึ่งเมื่อพิจารณาร่วมกับยอดผู้เล่นที่พุ่งสูงมากขึ้นในขณะนี้ ก็มีความเป็นไปได้ว่านี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาสมที่สุดแล้วก็ได้ ที่ตำราอาหารเล่มนี้จะถูกปล่อยออกมาCredit: GameInFormer
14 Jul 2021
เกมดังเกินไป Final Fantasy 14 ตัวเกมเวอร์ชันดิจิทัลขายหมดยันหน้าร้าน Square Enix Store
จาก 1 ในเกมที่ล้มเหลวที่สุด สู่ 1 ในเกม MMORPG ที่ดังมากที่สุดในโลก ผมคิดว่าเพื่อนๆ ต้องรู้จักเกม Final Fantasy 14 กันบ้างแหละ สำหรับคนที่ไม่รู้จัก เกมนี้นะครับ เกมนี้จะให้ผู้เล่นได้เลือกอาชีพต่างๆ ที่เราต้องการจะเล่น แล้วออกผจญภัยใน Eorzea เกมนี้ก็มีการวางขายส่วนเสริมของเกมเพิ่มยกตัวอย่างเช่น Shadowbringers และล่าสุดที่เปิดให้พรีออเดอร์คือ Endwalker ซึ่งเตรียมวางขายในปลายปีนี้ตามที่ผู้ใช้ Reddit ได้บอกไว้คือ Final Fantasy 14 ขายดีจนหมดสต็อกหน้าร้าน Square Enix Store ไปแล้วทำให้เราคาดการณ์ได้ว่าทาง Square Enix ไม่ได้สร้างรหัสไว้ล่วงหน้าหรือไม่ก็สร้างล่วงหน้าไว้แล้วแต่เกมขายดีมากเกินไปจนรหัสหมดไม่ก็ความจุเซิร์ฟเวอร์ไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้เล่นครับ แต่ก็มีข่าวมาว่า Square Enix วางแผนว่าจะลงทุนขยายความจุเซิร์ฟเวอร์ในเวอร์ชัน 6.0 นะเมื่อ 2 - 3 เดือนที่ผ่านมามีผู้เล่นลงทะเบียน Final Fantasy 14 ไว้ถึง 22 ล้านคน แต่การมาของส่วนเสริม Endwalker ก็ทำให้มีแนวโน้มว่ายอดผู้เล่นจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะส่วนเสริม Endwalker มียอดพรีออเดอร์เยอะกว่าตอน Shadowbringers เป็นอย่างมาก สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังตัดสินใจจะซื้อผมจะบอกสเปคคอมขั้นต่ำไว้ด้านล่างนี้นะครับสเปคขั้นต่ำสำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการจะเล่น Final Fantasy 14: Endwalker นะครับคือ Intel Core-i5 2.4GHz หรือสูงกว่านี้ RAM 4 GB ขึ้นไป และ Geforce GTX 750 หรือ Radeon R7 260X ครับสเปคประมาณนี้จะให้ความละเอียดอยู่ที่ 1280x720 ส่วนสเปคที่แนะนำคือ Intel Core-i7 3 GHz หรือสูงกว่า RAM 8 GB ขึ้นไป กับ GeForce GTX 970 หรือ Radeon RX 480 ครับด้วยสเปคประมาณนี้จะได้ความละเอียดอยู่ที่ 1920x1080 ครับสำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจส่วนเสริม Endwalker นะครับ สามารถพรีออเดอร์ได้ผ่านลิงก์นี้เลย ซึ่งจะวางขายในวันที่ 23 พฤศจิกายนให้กับเครื่อง PS4, PS5 กับ PC ครับCredit : GamingBolt 
13 Jul 2021
Final Fantasy 14: Endwalker มียอดพรีออเดอร์มากกว่า Shadowbringers ถึง 160-180%
ผมว่าเพื่อนๆ หลายคนคงรู้จัก Final Fantasy 14 กันเป็นอย่างดี Final Fantasy 14 เป็นเกมแนว MMORPG ที่โด่งดังมากเกมนึง โดยจะให้ผู้เล่นได้เลือกอาชีพต่างๆ แล้วผจญภัยในโลก Eorzea ตัวเกมก็มีส่วนเสริมออกมาอย่าง Shadowbringers ให้แฟนๆ ได้สนุกสนานกับอาชีพใหม่ๆ ตอนนี้ก็มีส่วนเสริมออกมาเช่นกันคือ Endwalker ซึ่งดูเหมือนว่าจะใหญ่และดีกว่าส่วนเสริมตัวก่อนๆ ซะอีก ซึ่งก็คงทำให้แฟนๆ ต้องตื่นเต้นกันใหญ่เลยแหละ อิงจากไลฟ์สตรีมล่าสุดของ Naoki Yoshida ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์เกม Final Fantasy 14 ได้ออกมาเปิดเผยว่า ยอดพรีออเดอร์ของ Endwalker มากกว่าของ Shadowbringers ที่ออกมาในปี 2019 ถึง 160 - 180% เลยทีเดียว แล้ว Yoshida ยังกล่าวอีกว่าจำนวนผู้ Final Fantasy 14 ในตอนนี้มากซะจนทาง Square Enix วางแผนที่จะลงทุนหลายล้านดอลลาร์ในการขยายและปรับปรุงเซิร์ฟเวอร์ของเกม ซึ่งคาดว่าจะมาในเวอร์ชั่น 6.0 ที่จะออกในสิ้นปีนี้พอรวมข่าวนี้กับข่าวลือที่ว่า Square Enix มีเนื้อหาที่จะอัปเดตเข้ามาเรี่อยๆ อีกเป็นระยะเวลา 5 ปี รวมถึงการพิจารณาว่าจะมีการอัปเดตเอนจิ้นกราฟิกของเกม ก็คงทำให้แฟนๆ วางใจได้ว่าจะได้เล่นเกมนี้ไปอีกนานหากเพื่อนๆ ไม่เคยเล่น Final Fantasy 14 ล่ะก็ต้องไปลองเล่นแล้วล่ะ ส่วนตัวผมคิดว่ามันเป็นเกม MMORPG ที่ดีเกมนึงเลยแหละ เพื่อนๆ สามารถเล่น Final Fantasy 14 ได้บน PS4, PS5 และ PC ส่วนตัวส่วนเสริม Endwalker ถ้าแฟนๆ ไม่พรีออเดอร์ก็รอเปิดให้ได้ซื้อกันในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้เลยCredit : GamingBolt
12 Jul 2021
Final Fantasy 14 ทำลายสถิติยอดผู้เล่นออนไลน์บน Steam เพียงเพราะสตรีมเมอร์ชื่อดังเพิ่งเริ่มเล่น!
Asmongold สตรีมเมอร์เกมสาย MMORPG ชื่อดังของโลก ได้ตัดสินใจที่จะเริ่มเล่น Final Fantasy 14 เป็นครั้งแรก ซึ่งเพียงแค่แฟนๆ ของเราทราบว่า Asmongold กำลังเล่น FF14 อยู่ ก็ส่งผลให้คนที่อยากพบกับสตรีมเมอร์ชื่อดังไปรวมตัวกันที่เมือง Limsa Lominsa ซึ่งเป็นเขตเริ่มต้นของบางอาชีพในเกม เพื่อรอต้อนรับเขา โดยเมื่อได้พบกับสตรีมเมอร์ที่ตัวเองรักเหล่าผู้เล่นก็ทำการกดสกิลต่างๆ เพื่อแสดงออกถึงความยินดีกันการเริ่มเล่น Final Fantasy 14 ของ Asmongold ยังส่งผลให้ยอดผู้เล่นเกมบน Steam พุงขึ้นไปสูงถึง 47,542 พร้อมกัน ทำลายสถิติเก่า 41,200 คน ช่วง Shadowbringer มาใหม่ๆ ในปี 2019 ซึ่งนับเป็นเรื่องดีสำหรับแฟนๆ ที่จะอาจจะได้เพื่อนใหม่จากการตามมาเล่นกับสตรีมเมอร์ชื่อดังด้วย สำหรับแฟนๆ ของคุณ Asmongold สามารถดูสตรีมไฮไลท์ของเขาได้ทั้งผ่าน Twitch และ Youtube วันนี้ สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจจะเริ่มเล่น Final Fantasy 14 ถ้ายังไม่แน่ใจว่าควรจะซื้อเกมเลยดีหรือไม่ ก็สามารถเข้าไปทดลองเล่นก่อนได้ โดยเวอร์ชันทดลงจะเปิดให้เล่นจนถึงเลเวล 60 ในทุกสายอาชีพ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เข้าใจเกมได้มากพอสมควรครับCredit : PCGamer
06 Jul 2021
Final Fantasy 14 Endwalker จะมีเนื้อเรื่องยาวกว่า Shadowbringer ประมาณ 30%
Square Enix เคยประกาศออกมาก่อนหน้านี้แล้วว่า Endwalker ซึ่งเป็น Expansion ต่อไปของ Final Fantasy 14 จะเป็นบทสรุปของเรื่องราวเทพ Hydaelyn กับ Zodiark ที่มีบทบาทสำคัญมาตลอดตั้งแต่ A Realm is Reborn โดยเรื่องราวจะจบลงยังไง คงต้องบอกว่าน่าสนใจไม่น้อยเลย  ในส่วนของความยาวเนื้อเรื่องใน Expansion ใหม่นี้ จะยาวกว่า Shadowbringer ประมาณ 30% ด้วยNaoki Yoshida หัวหน้าทีมพัฒนาได้ให้สัมภาษณ์ว่า 'มีหลายครั้งเหมือนกันที่ผมคิดว่า เนื้อเรื่องมันยาวมากเกินไปรึเปล่า เคยมีความคิดจะตัดเนื้อเรื่องบางส่วนออกเหมือนกัน แต่มันทำให้ต้องทำเงินมากขึ้นกว่าเดิมเสียอย่างนั้น สุดท้ายเลยตัดสินใจไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร' แต่ส่วนของ Dungeon ไม่ได้มีการลดจำนวนลง เพื่อลดปริมาณงานที่ทีมพัฒนาต้องทำ ดังนั้นขอให้แฟนๆ หายห่วงได้สุดท้ายคุณ Yoshida ยังยืนยันอีกครั้งว่าทีมพัฒนาใส่ใจในเนื้อเรื่องของ Expansion นี้มากจริงๆ มีฉากสำคัญที่เชื่อว่าจะต้องถูกใจเหล่าแฟน รวมถึงสร้างอารมณ์ร่วมด้วยในส่วนเสริมใหม่นี้ และแน่นอนว่าเกมเพลย์ใหม่ๆ ระบบใหม่ๆ ก็ถูกใส่เข้ามาด้วยในส่วนเสริมนี้ หวังว่าเหล่าผู้เล่นจะได้สนุกไปกับมันช่วงปลายปีนี้<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/zTTtd6bnhFs' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>Credit : https://gamingbolt.com/final-fantasy-14-endwalker-has-more-story-and-cutscenes-than-shadowbringers
25 May 2021
Final Fantasy 14 จับมือกับ Citizen เปิดตัวนาฬิกาข้อมือรุ่น Limited Edition
เรียกได้ว่าทำสินค้าออกมาขายอย่างต่อเนื่องจริงๆ สำหรับ Final Fantasy 14 ที่เมื่อวานเพิ่งจะเปิดตัวกีตาร์สีดำสุดเท่ไป มาวันนี้ก็มีการประกาศเปิดตัวนาฬิกาข้อมือกับ Citizen อีก 2 รุ่นในสีขาว และดำในราคา $349.99 และ $399.99 ตามลำดับ โดยเปิดให้ Pre-Order แล้ววันนี้ที่รุ่นสีข่าวมีราคาถูกกว่าคาดว่าน่าจะเป็นเพราะมีสายเป็นแบบหนังในขณะที่สีดำเป็นแบบโลหะ สำหรับโลโก้ของเกมจะไม่ได้เด่นอยู่บนหน้าปัดของนาฬิกา แต่อยู่บริเวณด้านหลังแทน ทั้งสองรุ่นมีการใส่ Eco-Drive ให้สามารถชาติพลังงานจากแสงได้ด้วย หมดกังวลเรื่องความยุ่งยากไปได้เลยSquare Enix มีแผนจะส่งสินค้าในช่วงปลายปี 2021 นี้ ดังนั้นสินค้าน่าจะมาถึงเพื่อนๆ ที่ Pre-Order ในช่วงต้นปีหน้า สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ผ่านลิงก์ข้างล่างCredit : https://www.siliconera.com/ffxiv-citizen-watches-cost-350-400/
19 May 2021
Final Fantasy 14 เปิดตัวกีตาร์ไฟฟ้าสีดำสุดเท่ วางขายปี 2022
Final Fantasy 14 ถือเป็นไม่กี่เกม MMORPG ที่มีเพลงประกอบที่ไพเราะ โดยสำหรับคนที่ชอบฟังดนตรีจากเกมแล้ว พลาดไม่ได้เลยจริงๆ ที่จะต้องรองฟังดูสักครั้งโดยเฉพาะเพลงจากภาค 14 และสำหรับนักดนตรีโดยเฉพาะมือกีตาร์ ก็พลาดไม่ได้เช่นกันสำหรับกีตาร์ไฟฟ้าสีดำสุดเท่ Official จาก Square EnixFender และ Square Enix จับมือกันผลิตกีตาร์ไฟฟ้า Limited Edition ทีมมาในธีม Final Fantasy 14 ด้วยลวดลาย กับสัญลักษณ์ประจำภาค ทำให้กีตาร์ตัวนี้สวยงามมาก เปิดให้ Pre-Order ผ่านหน้าร้าน Stratocaster ช่วงปลายปีนี้ และส่งออกในช่วงต้นปี 2022สำหรับภายในเกม Final Fantasy 14 เอง ก็มีการเพิ่มกีตาร์ไฟฟ้าตัวนี้เข้าไปด้วยเช่นกัน โดยมาพร้อมกับโทนเสียง 5 แบบ โดยจะมีของตกแต่งบ้านเป็นกีตาร์พร้อมที่ตั้งโชว์ สำหรับคนที่อยากเอาไปใช้ตกแต่งบ้านของตัวเองด้วยเช่นกันCredit : https://www.polygon.com/22440449/final-fantasy-14-fender-guitar-stratocaster-release-date
18 May 2021
Final Fantasy 14: Endwalker วางขาย 23 พฤศจิกายน 2021 ปล่อย Trailer ตัวเต็มแล้ว
ประกาศวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดตัวคลาสใหม่ใน Trailer ตัวเต็มแล้วในไลฟ์สตรีมวันเสาร์ที่ผ่านมา สำหรับ Final Fantasy 14: Endwalker โดยคลาสใหม่ที่จะถูกเพิ่มเข้ามาคือ Reaper คลาส DPS ระยะประชิดที่ใช้อาวุธเป็นเขียวขนาดใหญ่ และสามารถเรียกวิญญาณออกมาช่วยโจมตี หรือร่วมร่างกันเพื่อโจมตีอย่างรุนแรงได้<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/zTTtd6bnhFs' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>สำหรับผู้ที่สนใจใน Collector’ s Edition สำหรับส่วนเสริมใหญ่นี้ภายในกล่องจะได้โมเดลตัวละครหลักคลาส Paladin แถมมาด้วยพร้อมกับชุดรูปภาพบรรยายถึงการเดินทางของ Final Fantasy 14 พร้อมกับตุ๊กตาสุดน่ารัก และกรอบรูปตั้งโต๊ะที่สามารถเปลี่ยนรูปภาพทั้งหมดที่แถมมาใส่เข้าไปได้ ให้แฟนๆ สามารถเอาไปตั้งโชว์สวยๆ ได้ตามที่ต้องการสำหรับแพตช์ 5.5 จะถูกอัปเดตเข้ามาในวันที่ 25 พฤษภาคม 2021 นี้ พร้อมกับตัวเกมเวอร์ชัน PS5 ฉบับสมบูรณ์ที่แก้ไขบัคในช่วง Beta แล้ว Square Enix ได้ประกาศว่าภายในช่วง 6 เดือนก่อนจะถึงวันปล่อยแพตช์ Endwalker จะมีการเพิ่มอาวุธเรืองแสงของ Raid ระดับ Extreme ต่างๆ เข้ามาให้ เพื่อให้ผู้เล่นได้มีอะไรทำในช่วงรอแพตช์ 6.0 ของเกมครับCredit : https://gamingbolt.com/final-fantasy-14-endwalker-releases-on-november-23rd-collectors-edition-revealed
17 May 2021
Final Fantasy 14 เตรียมอัปเดตแพตช์ Death Unto Dawn วันที่ 13 เมษา พร้อมโชว์เกมเพลย์บนเครื่อง PS5
ถือเป็นข่าวดีสำหรับแฟนๆ Final Fantasy 14 ที่จะได้สัมผัสตัวเกมบนเครื่อง PS5 เป็นครั้งแรกในวันที่ 13 เมษายน 2021 นี้ แต่ในวันดังกล่าวนอกจากการเปิดรอบ Open Beta บนเครื่องเจนใหม่แล้ว ยังมีปล่อยอัปเดต 5.5 แพตช์ Death Unto Dawn เพื่อปูทางเข้าสู่ Expansion ใหม่ Endwalker ที่จะมาช่วงปลายปีนี้ด้วยครับจาก Trailer ของแพตช์ดังกล่าว อัปเดต 5.5 ถือได้ว่าเป็นแพตช์ใหญ่มากตัวหนึ่งเลย นอกจากเนื้องเรื่องทางฝั่ง Main Quest แล้วทางฝั่ง Side Quest เองก็มีการเพิ่มเนื้อเรื่องเข้ามามากมายด้วยเช่นกัน อย่างแรกคือ ดันเจี้ยน NieR ลำดับที่ 3 ซึ่งน่าจะเป็นด่านสุดท่ายของ Alliance Raid เลเวล 80 ต่อมา Diamond Weapon จาก FF7 ที่น่าจะเป็นบอสอาวุธอัญมณีตัวสุดท้าย ช่วง 42 วินาที ได้เห็น Scorpion Sentinel จากภาคเดียวกันด้วย ต้องรอดูว่าจะมีบทบาทยังไง<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/VG9VC5B_wRw' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากดูเกมเพลย์บนเครื่อง PS5 ใน Letter from the Producer LIVE Part LXIII คุณ Yoshida ได้มีการโชว์เกมเพลย์บนเครื่องเจนใหม่ให้เราได้รับชมกันด้วย โดยต้องบอกเลยว่าความคมชัดระดับ 4K ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ รายละเอียดของตัวละคร ฉาก น้ำ และอื่นๆ ถือว่าสวยงามเป็นอย่างมาก ในเรื่องของกราฟฺ์กคิดว่าเทียบเท่ากับ Max Setting ของ PC ตอนนี้ครับ<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/4wt4ZoN8YN4?start=4740' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>Credit: https://www.pcgamer.com/final-fantasy-14-update-55-trailer-shows-off-spectacular-raid-and-boss-footage/
05 Apr 2021
FF14 ร่วมแสดงความยินดีกับ WOW กับการมาของ Shadowlands ผ่าน Twitter
การเป็นเกมคู่แข่งในตลาดเดียวกันไม่จำเป็นต้องแข่งขันแย่งลูกค้ากันเสมอไป บางครั้งการแสดงความยินดีกับอีกฝ่ายเมื่อพวกเขาทำอะไรบางอย่างสำเร็จ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้เล่นที่มาจากอีกเกมได้เช่นกัน เหมือนที่ Final Fantasy 14 ร่วมแสดงความยินดีกับการมาของ Expansion ใหม่ Shadowlands ของ World of Warcraft ครับ Final Fantasy 14 ได้โพสต์ข้อความบน Twitter ของตัวเองพร้อมแท็ก World of Warcraft ด้วยข้อความว่า "ยินดีต้อนรับสู่ด้านมืด" (Expansion ล่าสุดของ FF14 มีชื่อว่า "Shadowbringers") และข้อความสั้นที่แสดงความยินดีว่า "ยินดีด้วยกับการวางจำหน่าย Shadowlands อย่างเป็นทางการ" ซึ่งข้อความนี้ดูจะทำให้แฟนๆ จากทั้งสองเกมดูมีความสุขกันมากๆ เนื่องจากมันทำให้มีความเป็นไปได้ที่ทั้ง 2 เกมจะมี Collaboration ร่วมกันเร็วๆ นี้ครับ! Welcome to the Shadows, @Warcraft. Happy #Shadowlands launch! pic.twitter.com/0aj7EXxFrf — FINAL FANTASY XIV (@FF_XIV_EN) November 23, 2020 ถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่ามีแฟนเกมหลายคนเลยที่เรียกร้องให้ทั้งสองมี Crossover หรือ Collaboration ร่วมกัน ซึ่งความต้องการส่วนใหญ่จากแฟน WOW ดูพวกเขาจะอยากได้นก Chocobo ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของ FF มากๆ ในเกม WOW โดยตอนนี้ยังไม่มีการโต้ตอบอะไรกลับมาจาก Twitter ของทาง WOW ต้องรอดูต่อไปว่าทั้งสองจะมีกิจกรรมร่วมกันต่อไปในอนาคตหรือไม่ครับ! Final Fantasy 14 วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 และ PC ส่วน World of Warcraft ก็วางจำหน่ายแล้วบนเครื่อง PC เท่านั้น Credit: GameRant
25 Nov 2020
โลกแฟนตาซีที่รอคุณอยู่! : 10 เหตุผลที่คุณควรเล่น Final Fantasy XIV Online ในเวลานี้!
หมายเหตุ : ผู้เขียน เขียนบทความนี้จากประสบการณ์การเล่น Final Fantasy XIV Online นับตั้งแต่ Open Beta ของ A Realm Reborn จนถึง Expansion ล่าสุด Shadowbringers เป็นเวลาเจ็ดปีเต็ม หมายเหตุ 2 : ในบทความนี้ ถ้ามีจุดที่ตกหล่น หรืออยากจะท้วงติง ถกเพื่อสนทนา ผู้เขียนมีความยินดีอย่างยิ่ง และพร้อมต้อนรับทุกคนที่สนใจ สู่โลกแห่ง Eorzea ด้วยความเต็มใจครับ ในแวดวงวิดีโอเกมยุคโมเดิร์นนั้น อาจจะกล่าวได้ว่า เกมแนว Massive Multiplayer Open-World RPG หรือ ‘MMORPG’ นั้นเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดและมีประวัติศาสตร์ที่มีสีสันที่สุดประเภทหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะมันต้องใช้ทั้งกำลังแรงงานผู้สร้าง ความคิดสร้างสรรค์ และแนวคิดที่จะดึงดูดผู้เล่นให้อยู่ติดและยอม ‘จ่ายเงิน’ รายเดือนเพื่อเล่นมันต่อไป เช่นเดียวกับที่ Final Fantasy XIV เป็น และมันเป็นยิ่งกว่าประวัติศาสตร์ เพราะมันผ่านจุดที่ตกต่ำที่สุด ไม่ใช่แค่ในฐานะตัวเกม แต่ในฐานะแฟรนไชส์ของ Final Fantasy เลยด้วยซ้ำ Final Fantasy XIV เปิดตัวเวอร์ชัน ‘1.0’ ในปี 2010 พร้อมเสียงตอบรับในทางลบอย่างมหาศาล ทั้งการเล่นที่ยากลำบาก เนื้อหาที่ไม่น่าสนใจ และระบบที่ไม่เป็นมิตรกับผู้เล่นเป็นอย่างมาก เสียงทางลบนั้นมากเสียจน Yoichi Wada ประธานบริษัท Square-Enix ในเวลานั้น ต้องออกตั้งโต๊ะแถลงการณ์ขออภัยต่อผู้เล่น และปลด Hiromichi Tanaka โปรดิวเซอร์คนเก่าออก ก่อนที่จะโยกย้าย Naoki Yoshida ที่ในเวลานั้น กำลังง่วนอยู่กับโปรเจ็กต์ Dragon Quest X ให้มาทำหน้าที่ ‘กอบกู้ซาก’ ของ FFXIV ให้กลายเป็น ‘เกมใหม่’ ที่จะเรียกศรัทธาผู้เล่นกลับมาอีกครั้ง (พวกเขาถึงกับทำเหตุการณ์ ‘ระเบิดเซิร์ฟเวอร์’ อย่างยิ่งใหญ่อลังการ จนกลายเป็นเทศกาลประจำปีทุกวันที่ 27 สิงหาคมกันเลยทีเดียว) [caption id="attachment_66005" align="alignnone" width="1024"] เหตุการณ์ The Calamity ที่ Bahamut หลุดจากการจองจำบนดวงจันทร์ Dalamud และเกือบทำลายทั้ง Eorzea ให้เป็นจุลด้วย Teraflare วันระเบิดเซิร์ฟเวอร์ เกมเวอร์ชัน 1.0 ที่อลังการงานสร้างอย่างมาก[/caption] FFXIV กลับมาอีกครั้งในปี 2013 ภายใต้ชื่อ ‘A Realm Reborn’ และที่เหลือคงไม่ต้องสาธยายกันให้มากความ มันค่อยๆ ไต่บันไดความสำเร็จและความยอดเยี่ยมไปทีละขั้น ด้วยการเล่นที่ดีขึ้น กราฟิกที่สวยงามขึ้น และเนื้อหาที่น่าติดตามมากขึ้น จนมาถึงวันนี้ กับ Expansion ตัวที่สามอย่าง Shadowbringers ที่เลยล่วงมาถึงแพทช์ 5.3 ‘Reflections in Crystal’ ที่เหล่าผู้เล่นถึงกับยกให้มันคือ ‘จุดสูงสุด’ ของ FFXIV ในรอบเจ็ดปีที่ผ่านมา ที่เกริ่นมาทั้งหมดนั้น เป็นเพียงการแนะนำในเบื้องต้น และสำหรับผู้เขียนที่เล่นและติดตาม FFXIV มาในตลอดเจ็ดปี ก็ต้องขอบอกว่า ไม่มีช่วงไหนจะเหมาะสมที่จะเข้าสัมผัสความสนุกของ MMORPG อย่าง FFXIV เท่ากับเวลานี้อีกแล้ว ด้วย 10 เหตุผล ที่ยังคงแจ่มชัด และน่าจะทำให้พี่ๆ เพื่อนๆ ผู้อ่านสนใจกันอยู่ไม่น้อย และถ้าบทความชิ้นนี้ ทำให้ใครติดใจ และผูกใจกับโลกแห่ง Eorzea ได้บ้างแล้วล่ะก็ ผู้เขียนก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง -กราฟิกสวยงาม และใช้สเปคเครื่องที่ไม่สูงนัก ข้อดีประการแรกของ FFXIV ในตลอดระยะเวลาเจ็ดปีที่ผ่านมานั้น คงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า มันเป็นเกม MMORPG ที่กินทรัพยากรของ PC ค่อนข้างน้อยมาก ภายใต้งานออกแบบศิลป์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ มีความโดดเด่นชัดเจน และแม้ว่าในปัจจุบัน ทีมพัฒนาจะทำการอัพเกรดเอนจิ้นของตัวเกมให้รองรับสำหรับ DirectX11 เท่านั้น แต่มันก็ยังถือว่าเป็นลิมิตที่ต่ำมากๆ สำหรับ PC สายเล่นเกมโดยทั่วไป (ที่การ์ดจอของใครหลายคนน่าจะรองรับไปถึง DirectX12 และระบบ Ray Tracing กันแล้ว…) มันรันได้อย่างลื่นไหล รวมไปถึงอนิเมชันตัวละครที่หลากหลาย ปรับแต่งตัวละครได้ตามแต่ใจต้องการ ในระดับที่ต่อให้คุณกดสุ่มสร้างตัวละคร มันก็ยังออกมาดูดี คงยากจะหาเกมไหนที่จะมีคุณสมบัติเทียบเคียง FFXIV ได้ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เครื่อง PC ไม่แรงมากนัก และไม่คิดว่าจะสามารถรัน FFXIV ได้อย่างที่ควรจะเป็น ก็อยากจะบอกให้หายห่วง นั่นเพราะว่า… -ระบบ Cross-Play ระหว่าง PC และ Playstation 4 Final Fantalsy XIV ยืนยันตัวตนในฐานะเกม MMORPG แบบ Cross-Play มาตั้งแต่แรกเริ่ม ที่ผู้เล่นบน PC และ Playstation 3 (หรือ Playstation 4 ในตอนนี้) สามารถเล่นร่วมเซิร์ฟเวอร์เดียวกันได้ และหนึ่ง ID ก็สามารถใช้ร่วมกันได้ทั้งสองแพลทฟอร์ม (แต่แน่นอน เนื้อหาเสริม Expansion ก็ยังเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะสามารถเล่นไปได้ถึงระดับไหน…) แน่นอนว่าการเป็นเกม Cross-Play นั้น ทาง SQEN ได้คิดเผื่อสำหรับการควบคุมด้วยจอยแพดเอาไว้เป็นอย่างดี และนี่เป็นหนึ่งในเกม MMORPG ที่ใช้จอยแพดเล่นได้ง่ายมากๆ เกมหนึ่งในตลาดปัจจุบัน หรือถ้าไม่ถนัดจริงๆ คุณจะเอาคีย์บอร์ดกับเมาส์มาเสียบ USB กับเครื่อง Playstation 4 ก็ได้ เพราะมันถูกกำหนดเอาไว้เป็น Native Support โดยไม่ต้องปรับแต่งอะไรให้มากความ เล่นร่วมกันได้ กินสเปคไม่สูง แต่อาชีพที่หลากหลายก็ชวนให้ลายตาอยู่ไม่น้อย นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เย็นใจได้เลย เพราะ… -หนึ่งตัวละคร เล่นได้ทุกอาชีพ FFXIV นำเอาเสน่ห์แบบ Final Fantasy III และ Final Fantasy V เข้ามาผนวกไว้กับตัวเอง เพราะตัวละครของคุณหนึ่งตัว สามารถเป็นได้ ‘ทุกอาชีพ’ เท่าที่ใจอยากจะเป็น แค่เพียงเปิดเควสต์ เปลี่ยนอาวุธหลัก คุณก็สามารถสลับไปเล่นอาชีพอื่นๆ ได้ตามต้องการ วันนี้คุณอยากจะเล่นเป็น Black Mage จอมเวทย์ร่ายคาถา แต่ถ้าเบื่อๆ แล้วอยากไปชนกับศัตรูซึ่งๆ หน้า เปลี่ยนอาวุธมาเป็นขวานแล้วสลับเป็น Warrior ก็ย่อมได้ ในที่นี้ รวมถึงอาชีพสายขุดหาของและสายคราฟท์ ซึ่งอยู่ในกฏเกณฑ์เดียวกัน ทำให้คุณไม่ต้องสร้างตัวละครเป็นสิบๆ เพื่อรองรับกับอาชีพที่แตกต่าง ขอเพียงยังมีช่องว่างใน Armory Slot สำหรับอาวุธ ทุกอาชีพที่คุณปลดล็อคไว้แล้วก็พร้อมจะให้คุณเลือกเล่น แน่นอนว่ามันต้องใช้เวลาในการ Leveling ปลดล็อคความสามารถต่างๆ ตามระยะเวลา แต่ร้านค้า Mogstation ก็มีไอเทมพิเศษแบบจ่ายเงินจริง ให้คุณ skip เลเวลได้ตัวละครพร้อมใช้ในทันที แต่ผู้เขียนก็ไม่ขอแนะนำในหนทางนี้ เพราะ…. -เนื้อเรื่องสุดเข้มข้น ขับเคลื่อนทุกส่วนของตัวเกม Final Fantasy XIV คือเกมที่เป็น Story-Centric โดยแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาหลัก Main Scenario ที่เข้มข้นในตลอดสาม Expansions ก็ดี (สงครามมังกรพันปี Dragonsong War ใน Heavensward, ภารกิจกอบกู้ Ala Mhigo จากจักรวรรดิใน Stormblood และการช่วยเหลือโลกต่างมิติใน Shadowbringers...) หรือแม้แต่เนื้อเรื่องของอาชีพต่างๆ ที่มีหลากหลายครบรส ทั้งดราม่า ตลกโปกฮา ซาบซึ้งใจ และน่าตื่นตาตื่นใจ ไม่เว้นแม้แต่อาชีพสายขุดสายคราฟท์ ที่มีเนื้อเรื่องเฉพาะเป็นของตัวเอง อันที่จริง คุณอาจจะไม่ต้องสนใจเนื้อหาและกด Skip ข้ามไปเลยก็ได้ แต่ขอบอกว่า คุณจะพลาดอรรถรสของตัวเกมไปเกือบครึ่ง ที่ทีมสร้างได้รจนาเรื่องราวไว้ได้อย่างจับใจ โดยเฉพาะกับภาค Shadowbringers ที่ Natsuko Ishikawa มือเขียนบทระดับต้นๆ ของทีม (ผู้เขียนบทอาชีพ Dark Knight อันลือชื่อ) สร้างสรรค์เรื่องราวได้อย่างอลังการ จนผู้เล่นต่างยกย่องให้แพทช์ 5.3 ว่าเป็น ‘จุดสูงสุด’ ของ FFXIV กันเลยทีเดียว (อ้อ แล้วในแพทช์ 5.3 ทีมพัฒนาทำการ ตัดทอน ภารกิจส่วนเกินที่ไม่จำเป็นในช่วง A Realm Reborn ไปเกือบ 30% ทำให้ pace การเล่นเร็วขึ้น สะดวกสบายแก่คนเล่นมากขึ้นด้วย นับเป็นนิมิตหมายที่ดีครับ~) แต่ลางเนื้อชอบลางยา ถ้าเนื้อหาไม่ใช่สิ่งที่คุณสนใจมากมายนักแล้วนั้น…. -เกมมีเมคานิคสุดท้าทาย รองรับกับผู้เล่นทุกระดับ เหตุผลที่ผู้เขียนไม่แนะนำให้คุณทำการ Skip เลเวล และให้เรียนรู้จากเบื้องต้น เพราะ FFXIV ยังเป็น MMORPG ที่ยังยึดกฎ ‘Holy Trinity’ สามโรลหลัก Tank, Healer, DPS และทุกการปะทะ ไม่ว่าจะดันเจี้ยนธรรมดา ไปจนถึง Savage Raid ระดับสุดโหด คุณต้องรู้หน้าที่ของตัวเอง รู้ว่าอาชีพของตัวเองสามารถทำอะไรได้บ้าง และจับมันให้อยู่มือ นี่ไม่ใช่เกมเดินทอดน่องเก็บเลเวลดาดๆ แต่เป็นเกมที่ทุกคนต้องรู้หน้าที่ และหนุนเสริมส่งซึ่งกันและกัน มันมีตั้งแต่ระดับง่ายๆ ผ่านได้อย่างไม่ยากเย็น จนถึงระดับซูเปอร์ Ultimate Raid ที่ท้าทายเหล่ายอดมนุษย์ทีม Raider มือฉมัง (พร้อมของรางวัลเป็นอาวุธเอาไว้ใส่เดินขิง…) เรียกว่าคุณจะไม่ได้อยู่เฉยๆ แน่ๆ ถ้าเดินตามเนื้อหาที่วางเอาไว้ คุณจะได้พบกับทุกการปะทะอย่างแน่นอน แล้วสำหรับผู้เล่นสาย  Casual ล่ะ? คนที่อยากจะเอกเขนกเล่นเกมดูบรรยากาศอย่างสบายใจ หายห่วง นั่นเพราะ… -อีเวนท์ประจำปีไม่มีขาด ถ้าไม่นับ World of Warcraft ที่มีอีเวนท์ประจำปีระดับแน่นอนชนิดแปะเป็น In-Game Calendar แล้วนั้น FFXIV ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่มากหลายด้วยอีเวนท์สนุกๆ ประจำปีให้ได้ร่วมสนุกกัน ไม่ว่าจะเป็นอีเวนท์ข้ามปี อีเวนท์หน้าร้อนชายทะเล อีเวนท์วันเด็กหญิงของญี่ปุ่น อีเวนท์ระลึกวัน ‘ระเบิดเซิร์ฟเวอร์’ อีเวนท์วันฮัลโลวีน จนถึงอีเวนท์วันวาเลนไทน์ มันอาจจะเป็นเพียงส่วนประกอบง่ายๆ ไม่ได้ซับซ้อนอะไร แต่ก็เช่นเดียวกับทุกส่วนของตัวเกม ทุกอีเวนท์ผ่านการเขียนบทและรจนามาได้อย่างพอเหมาะ เล่นได้สนุกและบันเทิงอยู่ไม่น้อย พร้อมของรางวัลตอบแทนอีกมากมาย (อ้อ ผู้เล่นสามารถซื้อแพ็คเกจ แต่งงาน ในเกมได้ด้วย ซึ่งจะได้ของแถมพิเศษอีกต่างหาก~) แล้วนอกเหนือจากอีเวนท์ประจำปี มันมีอะไรที่เกี่ยวโยงกับ Final Fantasy ภาคก่อนๆ หรือเปล่า? เชื่อว่านี่เป็นคำถามที่น่าจะเกิดขึ้น และในความเป็นจริงนั้น… -References กับซีรีส์ Final Fantasy (และซีรีส์เกมอื่น) ใส่มาจนล้นไม่มีขาดตก ด้วยการยืนอายุของซีรีส์ Final Fantasy มากว่าสามทศวรรษ ทำให้ทีมงานสร้างของ XIV มีวัตถุดิบที่จะสามารถจะหยิบจับมาใช้ได้อย่างอยู่มือ ผู้เล่นจะได้พบกับตัวละครที่คุ้นเคย เหตุการณ์ที่คุ้นเคย จนถึง Dungeon และบอสที่คุ้นเคยเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Raid แบบ 24 คนไต่ Crystal Tower จากภาคสาม, การใส่ดันเจี้ยนที่พ้องเนื้อหาไปกับโลก Ivalice ของ Final Fantasy Tactics และ Final Fantasy XII หรือการ Collaboration ล่าสุดกับ Yoko Taro กับซีรีส์ Nier : Automata ที่กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้นภายใต้ชื่อ YoRHa: Dark Apocalypse เรียกว่าคนที่ติดตามซีรีส์ Final Fantasy มาโดยตลอด จะต้องมีจุดที่ต้องโดนใจเข้าสักที่สองที่อย่างแน่นอน แต่เนื้อหาและการ Collaborate ที่มากมายอาจจะไม่เพียงพอ เพราะการสร้างเกมนั้น ‘ดนตรี’ ก็เป็นส่วนประกอบสำคัญ นั่นทำให้… -ดนตรีในเกมนี้คืออลังการศิลป์อย่างแท้จริง จุดเด่นหนึ่งของ FFXIV ที่มีมาในตลอดทุก Expansions นั้น คือดนตรีประกอบ ที่ได้ทั้ง Nobuo Uematsu ปรมาจารย์รุ่นเก๋าแห่ง SQEN มาร่วมช่วยสร้าง ประกอบกับฝีมือของ Masayoshi Soken โปรดิวเซอร์เพลงหลักที่ทำดนตรีให้กับทุกการปะทะร่วมกับวง The Primals และเพลงเปิดอันยิ่งใหญ่ในเสียงร้องระดับสวรรค์สร้างของ Susan Calloway ชนิดที่ทุกเพลง สามารถรวมฮิตออกขายซื้อมาฟังได้แบบไม่เสียดายเงิน มันคือการกลั่นทุกประสบการณ์ทางดนตรีของทีมสร้างอย่างไม่มีกั๊กไม่มีเม้ม ที่พร้อมจะทำให้มันสุดยอดยิ่งๆ ขึ้นไป แต่เกมที่หนักเนื้อหาและแน่นคอนเทนต์ขนาดนี้ เราจะไว้ใจได้แค่ไหนว่าพวกเขาจะนำเสนอออกมาได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย หายห่วงครับ นั่นเพราะ… -คุณภาพคอนเทนต์เกมไม่เคยตก ด้วยระบบ Subscription-Based FFXIV เป็นหนึ่งในไม่กี่เกม MMORPG ที่กล้ายืนหยัดด้วยระบบ ‘จ่ายรายเดือน’ แบบ Subscription-Based ซึ่งทีมสร้างก็ไม่ทำให้ผู้เล่นผิดหวัง เพราะพวกเขามีตารางที่ชัดเจนในการปล่อยคอนเทนต์ตอนใหม่ๆ และเพิ่ม Features ที่น่าสนใจชนิดที่ไม่มีขาด มีอะไรให้ทำทั้งสาย Casual และ Hardcore แน่นอนว่าในแพทช์ล่าสุด 5.3 อย่าง Reflections in Crystal มีอุปสรรคจากวิกฤติ COVID-19 ที่ทำให้พวกเขาต้องปล่อยมันออกมาช้ากว่ากำหนดถึงเดือนครึ่ง (และกระทบถึงแพทช์อื่นๆ และการเปิดตัว Expansion ใหม่…) เพราะต้องจัดระบบการทำงานเพื่อป้องกันสุขภาพของทีมงาน แต่ Naoki Yoshida ก็ยืนยันผ่านรายการ Live Letter แล้วว่า เขาจะไม่ยอมประนีประนอมคุณภาพเด็ดขาด ทุกอย่างต้องไปให้ถึงจุดสูงสุดแม้จะต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นก็ตาม ซึ่งในตลอดเจ็ดปี มันก็เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่า ทีมสร้างนั้น ‘เอาจริง’ และทุ่มใส่เต็มเม็ดแบบไม่มีอะไรจะเสีย (และดีขึ้น ดีขึ้นเรื่อยๆ…) และแน่นอน ด้วยระบบการจ่ายเงินเช่นนี้ ทำให้ FFXIV ไม่มีอาการแบบ ‘Pay to Win’ หรือเทพทรูใดๆ ทั้งสิ้น มาถึงจุดนี้ ถ้าพี่ๆ เพื่อนๆ รู้สึกว่าการจ่าย ‘รายเดือน’ นั้นเป็นสิ่งที่ผลักไสไม่ให้เข้ามาสัมผัสตัวเกม และรู้สึกว่า ไปหาเกมที่เล่นได้ฟรีมาเล่นไม่ดีกว่าหรือ ก็ขอบอกว่า ... -ตอนนี้ Free-Trial ได้ถึง Level 60 และเนื้อหาของ Expansion แรกอย่าง Heavensward ตั้งแต่แพทช์ 5.3 ‘Reflections in Crystal’ นั้น ทางทีมพัฒนาเปิดกว้างและให้พื้นที่สำหรับคนที่อยากลองเล่นได้เข้ามาสัมผัสได้นานขึ้น เพราะตอนนี้ ตัวเกมหลักและ Expansion ตัวแรกอย่าง Heavensward สามารถเล่นได้ ‘ฟรี’ จนถึงเลเวล 60 ซึ่งพี่ๆ เพื่อนๆ สามารถไปหาโหลดลงทะเบียนได้ที่ https://freetrial.finalfantasyxiv.com/gb/ หรือบนระบบ Playstaion 4 ได้ที่ Store ของโซนอเมริกาและยุโรป ภายใต้เงื่อนไขสามประการ คือ… -ตัวละคร Free-Trial จะมีเงินติดตัวได้สูงสุด 300,000 Gil และใช้ Marketboard ซื้อขายไม่ได้ (ป้องกันการถล่มตลาด) -ตัวละคร Free-Trial ไม่สามารถ Add เพื่อนได้ด้วยตนเอง (แต่ให้ฝั่งผู้เล่น Add และชวนเข้าปาร์ตี้ได้) -ตัวละคร Free-Trial จะไม่สามารถรับ Tomestone (หน่วยเงินหลัง End-Game) ใดๆ ได้ ก็เป็นที่เข้าใจกันได้ แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว อิสระทั้งหมด คุณจะเล่นเป็นเผ่าไหน อาชีพไหน ไม่มีจำกัด ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีมากๆ สำหรับคนที่อยากลองสัมผัส แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเล่นได้นานแค่ไหน และถ้าเล่นตัว Free-Trial แล้วติดใจ คุณสามารถซื้อตัวเกมมาเปลี่ยนสถานะเป็น Full Subscription เล่นต่อได้ทันทีโดยไม่เสีย Progress เดิมที่ทำไว้ นับว่า SQEN ใจกว้างในการนี้พอสมควรทีเดียว Final Fantasy XIV ก้าวข้ามผ่านปีที่ 7 เข้าสู่ปีที่ 8 อย่างท้าทาย จากวันที่มันเป็นเพียง ‘ซากแห่งความอัปยศ’ ของ SQEN ทีมงานของ Naoki Yoshida กอบกู้มันจากเถ้าถ่าน สรรสร้างอย่างประณีต และใส่หัวใจให้เต็มร้อยกับผลงานชิ้นนี้ และผู้เขียนก็เชื่อว่า มันจะเป็นหนึ่งในการผจญภัยที่ยาวนานและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับปณิธานของ Yoshida ที่กล่าวว่า เขาอยากทำเกมนี้ต่อไปอีกระดับสิบปี จนกว่าชีวิตจะหาไม่…   ‘และโลกแฟนตาซีอันรุ่มรวย สนุกสนาน และหลากหลายนี้ กำลังรอให้คุณไปสัมผัสอยู่ ไม่มีจังหวะไหนที่ดีไปกว่าตอนนี้อีกแล้วล่ะครับ!’
01 Sep 2020
Final Fantasy 14 เตรียมย่อเนื้อเรื่องช่วงแรกให้กระชับ และเล่นงายขึ้น!
Final Fantasy 14 เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเกม MMO ที่ทำเนื้อเรื่องออกมาได้ยอดเยี่ยมมากๆ เกมหนึ่ง แต่ในช่วง 50 เลเวลแรกนั้น เรียกได้ว่ายังคงมีเควสเนื้อเรื่องที่สิ้นเปลือง และยาวเกินไปมากๆ ถ้าเทียบกับ 3 Expansion หลังที่ออกตามมา แต่จากไลฟ์สตรีมประกาศอัปเดตแพทช์ 5.3 ที่กำลังจะมีการอัปเดตในช่วงฤดูร้อนนี้ ก็ทำให้เราทราบว่า จะมีการย่อเนื้อเรื่องช่วงแรกของเกมให้กระชับ และเล่นง่ายขึ้นครับ! ซึ่งจากรายงานของเว็บไซต์ PCGamer ทำให้เราทราบว่าเควสเนื้อเรื่องของเกมจะถูกตัดออกไปประมาณ 13 เปอเซ็น และมีการปรับปรุงเควสเกือบทั้งหมดให้สามารถทำได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม Exp ที่ได้ รวมไปจนถึงของรางวัลเป็น Gear ต่างๆ มากขึ้น เพื่อให้ผู้เล่นสามารถไปจนถึงเลเวล 50 ได้ง่ายกว่าเดิม นอกจากนี้ผู้เล่นยังจะสามารถใช้สัตว์บินได้ใน แมพ 50 เลวลแรกแล้วเช่นกัน อีกทั้งเควสสำหรับการทำให้สัตว์บินได้ จะถูกทำเป็นเควสหลักแทนที่จะเป็นเควสรอง เพื่อให้ผู้เล่นจะได้ไม่พลาดเควสที่สำคัญนี้ครับ แน่นอนว่านี้ไม่ใช้ทั้งหมดที่จะถูกอัปเดตในแพทช์ 5.3 ที่มีชื่อว่า Reflections in Crystal ในส่วนของรายละเอียดอื่นๆ สามารถเข้าไปดูได้ผ่านลิงก์นี้เลยครับ Final Fantasy 14 วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั้งบน PC  และ PS4 Credit: PCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
27 Apr 2020
งานนี้ต้องมีเพื่อนลุย! กับเกม MMORPG น่าลองแห่งปี 2020
เราคงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า โลกแห่งเกมออนไลน์ขนาดใหญ่หรือ ‘MMORPG’ นั้น สนุกสนานและน่าลิ้มลองแค่ไหน และเติบโตต่อยอดจากจุดเริ่มต้นของมันในยุกแรกเริ่มมาไกลเพียงใด และเมื่อวิทยาการทางด้านการติดต่อสื่อสารพัฒนาให้มีความสะดวกมากขึ้น ก็ยิ่งเป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้ผู้พัฒนาหลายเจ้าตบเท้ากันเข้ามาสู่ตลาดแห่งเกมออนไลน์อย่างคึกคัก แต่ก็เช่นเดียวกับธรรมชาติของมัน ที่การเล่นเกม MMORPG เกมหนึ่งจะต้องทุ่มเทเวลาให้กับมันเป็นอย่างมาก (เพราะการแตะแค่ผิวเผินนั้นเป็นเพียงส่วนหน้าของเค้กแสนอร่อยชิ้นนี้เท่านั้น…) เราก็เลยขออาสาแนะนำ 5 เกม MMORPG ฝั่งตะวันตกที่ยังคงน่าเล่นน่าลิ้มลองในปี 2020 ไว้เป็นตัวเลือกให้คุณผู้อ่านได้พิจารณากันดูสักครั้ง World of Warcraft ปีที่วางจำหน่าย : พฤศจิกายน 2004 ผู้พัฒนา : Blizzard Entertainment ยังคงยืนหนึ่งในสายเกม MMORPG ที่ยาวนานมากว่า 15 ปี ผ่าน Expansion มาแล้วถึง 7 ตัว และภาคเสริมตัวล่าสุดอย่าง Shadowlands ก็กำลังจะวางจำหน่ายในปีนี้ ด้วยยอดผู้เล่นหลักสิบล้านคน และคอนเทนต์ที่ผ่านการสะสมมาอย่างมากมายในรอบหลายปีที่ผ่านมา ในจักรวาลของ Warcraft ซีรีส์คู่บุญของค่าย ที่จะรับประกันความสนุกได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เล่นหน้าเก่าสิงห์สนาม หรือหน้าใหม่ที่อยากจะเข้ามาลิ้มลองรสชาติแห่ง MMORPG ระดับตำนานเกมนี้ ไม่ว่าคุณจะชอบการสวมบทบาทแบบ PvE หรือปะทะในสนามรบแบบ PvP เกมนี้มีทุกรูปแบบให้คุณได้เล่นอย่างที่ใจปรารถนา จุดเด่น : คอนเทนต์มากมายมหาศาลให้เล่นกันไม่หวาดไม่ไหว, ระบบ User Interface ที่สามารถปรับแต่งได้อย่างไร้ขีดจำกัด, เนื้อหาที่ครอบคลุมยาวนานมากว่า 15 ปีและไม่มีท่าทีว่าจะจบไปได้ง่ายๆ, ตัวเกมง่ายต่อการเข้าถึงและเป็นมิตรกับผู้เล่นหน้าใหม่อย่างมาก ข้อสังเกต : แม้จะรั้งตำแหน่งแถวหน้าของเกมแนว MMORPG แต่ยอดผู้เล่นที่ลดลงอย่างต่อเนื่องและการปรับของกราฟิกแบบการ์ตูนนั้นก็เป็นสัญญาณความเก่าอายุที่ไม่สู้ดีสักเท่าไร ภายใต้การแข่งขันที่โรมรันดุเดือดในสนามออนไลน์ ประกอบกับชื่อเสียของ Blizzard Entertainment ในรอบปีที่ผ่านมา ก็ยิ่งผลักให้ผู้เล่นหน้าเก่าออกห่างมันมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ Final Fantasy 14 ปีที่วางจำหน่าย : 2009 (Legacy) , 2013 (A Realm Reborn) ผู้พัฒนา : Square-Enix อดีตผลงานเกม MMORPG สุดอัปยศในประวัติศาสตร์ สู่การผงาดและก้าวมาเป็นเพชรน้ำเอกแหล่งรายได้หลักของบริษัท Square-Enix อีกหนึ่งผลงานจากญี่ปุ่นคุณภาพระดับสากลที่ปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุก Expansion ที่ผ่านไป จนมาถึงตัวล่าสุด Shadowbringers ที่คว้าคะแนนเฉลี่ยที่ 91 จาก Metacritics สูงที่สุดเท่าที่เคยได้มา บวกกับยอดผู้เล่นที่ 16 ล้านคนและยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการ Cross-Platform ระหว่างพีซี แมค และ PS4 ก็น่าจะรับประกันอนาคตที่สดใสของโลกแฟนตาซีแห่งนี้ได้ค่อนข้างแน่ จุดเด่น : เนื้อหาเข้มข้นลุ่มลึก ต่อยอดเชื่อมโยงกันทั้งเนื้อหาหลักและรอง, หนึ่งตัวละครเล่นได้หลายคลาสสลับสับเปลี่ยนได้ตามที่ชอบใจ, ระบบ Crafting ที่เล่นได้สนุก, กราฟิกสวยงามสมยุค, เพลงประกอบสุดเฉียบ, หนึ่ง Account เล่นข้ามแพลทฟอร์มได้ ข้อสังเกต : เกมนี้เน้นความสำคัญของเนื้อเรื่องเป็นแก่นหลัก นั่นหมายความว่าสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ คุณจะต้องเริ่มต้นเรื่องราวตั้งแต่ A Realm Reborn ไล่ไปอีกสาม Expansion ซึ่งเป็นภาระที่หนักหนาอยู่ไม่น้อย แม้ว่าทาง SQEN จะวางจำหน่ายไอเทมสำหรับ skip เนื้อหา และสัญญาว่าจะปรับปรุงความกระชับของเนื้อเรื่องช่วงต้นในแพทช์ 5.3 ที่กำลังจะออกก็ตาม แต่เราก็อยากให้คุณได้ลองเล่นมันด้วยตนเองอยู่ดีเพื่อสัมผัสความเข้มข้นของของแต่ละ Expansion และเรียนรู้การเล่นในแต่ละคลาสไปในตัว Star Wars: The Old Republic ปีที่วางจำหน่าย : 20 ธันวาคม 2011 ผู้พัฒนา : Bioware EA อีกหนึ่งผลงานเกมออนไลน์ที่แม้จะเปิดตัวไม่สวยนักในช่วงแรกที่วางจำหน่าย (ที่เป็นแบบจ่ายรายเดือน Subscription-Based) แต่หลังจากเปลี่ยนเป็นแบบ Free-to-Play แล้ว เกมก็ได้รับความนิยมมากขึ้นตามลำดับ นั่นเพราะมันคือส่วนผสมของเกม MMORPG ชั้นดีด้วยคลาสตัวละครที่หลากหลายพร้อมเรื่องราวและ NPC เฉพาะตัวให้การเล่นแต่ละรอบไม่ซ้ำกัน และเรื่องราวในจักรวาล Star Wars ยุค Old Republic ที่ทวีความเข้มข้นขึ้นในแต่ละภาค โดยเฉพาะกับภาคเสริมอย่าง Knights of the Eternal Throne และ Onslaught ที่ขนเอาตัวละครสุดคลาสสิคของเกม Knights of the Old Republic มาร่วมด้วย ถ้าได้ลองสักครั้ง เป็นต้องติดใจ จุดเด่น : คลาสตัวละครหลากหลายพร้อมเนื้อหาเฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำกัน, ระบบ Free-to-Play ที่ไม่ Pay-to-Win ที่ยอดเยี่ยมและน่าสนใจ, เนื้อเรื่องเข้มข้น จับอารมณ์และแก่นของความเป็น Star Wars ได้อย่างเต็มเปี่ยม ข้อสังเกต : ตัวเกมที่ค่อนข้างเข้าถึงยากสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ และข้อจำกัดสำหรับผู้เล่นสายฟรีที่ยังน่ากังขาอยู่ไม่น้อย โชคดีที่การสมัครเป็นสมาชิกจ่ายครั้งเดียว สามารถให้สิทธิพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาได้ในอีกระดับแม้จะไม่ได้จ่ายต่อแล้วก็ตาม The Elder Scrolls Online (ESO) ปีที่วางจำหน่าย : 4 เมษายน 2014 ผู้พัฒนา : Zenimax Online Studios (จัดจำหน่ายโดย Bethesda Softworks) อีกหนึ่งเกม MMORPG แบบ Free-to-Play ชั้นเยี่ยมที่เราอยากจะแนะนำ ด้วยโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่ง Tamriel และการเล่นที่อาศัยทักษะการมีส่วนร่วมจนเกือบจะกลายเป็นเกมแอ็คชัน ผสมเข้ากับระบบสเกลเลเวลที่ทำให้ผู้เล่นสามารถไปได้ในทุกพื้นที่โดยไม่จำกัดผ่านการปรับปรุงเป็น ESO: Tamriel Unlimited เพิ่มความอิสระเป็นอย่างสูง บวกความลื่นไหลของคลาสและระบบการ Crafting ที่ยอดเยี่ยมจนเป็นที่จับตามอง ไม่มีครั้งไหนที่ตำนานแห่งโลกแฟนตาซีของ Bethesda อายุกว่าสองทศวรรษจะโลดแล่นได้ราวกับมีชีวิตได้เท่านี้อีกแล้ว จุดเด่น: คลาสตัวละครลื่นไหล รองรับการเล่นได้หลากหลายรูปแบบ, โลกอันกว้างใหญ่ไพศาลให้ออกสำรวจและค้นหา, ระบบ Crafting สุดสนุก, การเล่นแบบกึ่งเกมแอ็คชันรวดเร็วและท้าทาย, ระบบ Free-to-Play ที่ออกแบบมาดี ข้อสังเกต : การซื้อ The Elder Scrolls Online ผ่านระบบ Steam นั้นมีหลายเวอร์ชันอยู่มาก มีตั้งแต่ตัวหลักอย่างเดียวจนถึงแพ็คเกจที่รวมภาคเสริมล่าสุดอย่าง Greymoor ที่จะวางจำหน่ายในวันที่ 2 มิถุนายนที่จะถึงนี้ อาจก่อให้เกิดความสับสน แต่สำหรับผู้เล่นที่ยอมจ่ายรายเดือน จะได้รับสิทธิในการเข้าถึงทุกคอนเทนต์ได้โดยไม่ต้องห่วงกังวลหรือซื้อเพิ่มแต่อย่างใด (หรือจะใช้หน่วยเงินในเกมเพื่อปลดล็อคภาคเสริมก็ได้) EVE Online ปีที่วางจำหน่าย : 6 พฤศภาคม 2003 ผู้พัฒนา : CCP Games อีกหนึ่งตำนานแห่งเกม MMORPG สาย Sandbox สำหรับผู้เล่นระดับฮาร์ดคอร์ที่ยืนยงคงกระพันมาถึง 16 ปีเต็ม ผลงานจากทีมพัฒนาสัญชาติไอซ์แลนด์เกมนี้ คือนิยามแห่งความเป็นอิสระแห่งจักรวาลที่แท้จริง ทุกสิ่งถูกขับเคลื่อนด้วยผู้เล่น ตั้งแต่กิจกรรม การค้าขาย การแลกเปลี่ยนทรัพยากร ไปจนถึงการก่อสงครามตั้งแต่ระดับเล็กจนถึงสเกลใหญ่เศษยานกระจายในห้วงอวกาศ และสำหรับใครที่อยากลอง ตัวเกมยังเพิ่มเวอร์ชัน Free-to-Play เข้ามาในปี 2016 แต่ลดฟีเจอร์บางอย่างลงให้พอชิมลางกันก่อนตัดสินใจ จุดเด่น : ห้วงอวกาศอิสระอย่างไร้ขีดจำกัด, มีกิจกรรมให้ทำอยู่มากมาย, กราฟิกสวยงามล้ำหน้าเกม MMORPG ในสายเดียวกัน, การปรับแต่งยานที่ลงลึกถึงรายละเอียดทุกสเกล, มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากทีมสร้าง ข้อสังเกต : ที่กล่าวว่าเกมนี้คือชิ้นงานสำหรับฮาร์ดคอร์ไม่ใช่คำขู่ เพราะที่นี่คือ ‘แดนเถื่อน’ ขนานแท้ ด้วยระบบเกมที่รันโดยผู้เล่นเป็นตัวขับเคลื่อนทุกกิจกรรม ทำให้พื้นที่นอกโซนปลอดภัยช่วงเริ่มต้นกลายเป็นอาณาเขตมิคสัญญีที่หน้าใหม่อาจโดนระเบิดยานตายคาอวกาศเอาได้ง่ายๆ หรือการซื้อขายที่มีการ Scam ไปจนถึงสงครามจารชนทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามที่คิดมูลค่าความเสียหายเป็นหน่วยเงินจริงๆ สูงจนน่าตกใจ นี่จึงไม่ใช่เกมที่เหมาะไว้เล่นสำหรับการผ่อนคลาย แต่ก็เข้มข้นและน่าหาโอกาสลองดูสักครั้ง โลกแห่ง MMORPG ไม่ว่าจะชิ้นงานใด ต่างมีจุดเด่นที่เป็นเสน่ห์ในตัวของมันเอง เราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สำหรับตัวเลือกที่เรานำมาเสนอทั้ง 5 ชิ้นงานนี้ จะกระตุ้นความสนใจของคุณผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย และถ้าใครมีเกมออนไลน์ที่ชอบเล่น อย่าลืมมาแลกเปลี่ยนบอกเล่าให้เราฟังกันบ้าง บางที มันอาจจะกลายเป็นโลกใบใหม่ของใครต่อใครหลายคนโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้~
03 Mar 2020
ชมกันให้เต็มอิ่ม! คลิปเกมเพลย์การล่า Behemoth จาก Monster Hunter: World
ผู้พัฒนาเกม Capcom ปล่อยคลิปเกมเพลย์การล่า Behemoth สัตว์ประหลาดใหม่ใน Monster Hunter: World ที่มาจากการร่วมมือกับอีกเกมใหญ่ อย่าง Final Fantasy XIV ในการไลฟ์สด Monster Hunter: World Hunting Kanshasai / Championship Finals 2018 เมื่อวานที่ผ่านมา สำหรับเพื่อนๆ ที่รอออกล่าเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ จะสามารถเล่นได้ในวันที่ 1 สิงหาคม ผ่านทาง PS4 และ Xbox One ส่วนแฟนเกม PC จะต้องรอจนกว่าตัวเกมจะปล่อยลง Steam ในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ https://www.youtube.com/watch?v=ZXjnySBKgrU ทั้งนี้เพื่อนๆ คงต้องรอติดตามกันอย่างใกล้ชิดว่า กิจกรรมที่ทางทั้งสองเกมร่วมมือกันจัดขึ้นนั้นจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ และยังไม่มีข้อสรุปออกมาแน่นอนว่าเจ้า Behemoth จะอยู่ในเกม Monster Hunter: World แบบถาวรหรือไม่ หากมีอะไรเพิ่มเติมเราจะมาอัพเดทให้เพื่อนๆ ได้รู้กันอย่างแน่นอน
16 Jul 2018
Behemoth จาก Final Fantasy 14 เตรียมบุก Monster Hunter: World (Trailer)
ผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายเกม Capcom เผยเทรลเลอร์ใหม่ของการจับมือกันระหว่างเกม Monster Hunter: World และ Final Fantasy 14 โดยจะมี Behemoth สัตว์ประหลาดอันโด่งดังจาก FF14 เป็นดาวเด่นและเป็นอีเว้นท์หลัก ให้ผู้เล่นทั้งหลายสามารถล่าได้ จุดเด่นของ Behemoth ที่ผู้เล่นจะสามารถสังเกตอย่างแรกเลยก็คือ ขนาดสุดมหึมาของมัน เมื่อเทียบกับขนาดของเจ้าสัตว์ประหลาดแล้ว ผู้เล่นจะสูงเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของเข่าของเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้เท่านั้น ส่วนสถานที่ที่จะเจอ Behemoth ได้ก็คือใน Elders Recess ซึ่งเป็นสถานที่ที่ Elder Dragons ส่วนใหญ่อยู่กัน ในด้านการโจมตี นอกจาก Behemoth จะใช้ท่าตะปบศัตรูเหมือนมอนสเตอร์ทั่วไปแล้ว ยังมีท่าที่เป็นจุดเด่นคือการเรียกฝนดาวตกลงมาโจมตีใส่ผู้เล่นอีกด้วย หากดูจากตอนจบของเทรลเลอร์แล้ว Behemoth ยังสามารถเรียกดาวตกยักษ์ที่จะทำลายทุกอย่างให้ราบคาบภายในครั้งเดียว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือ ชุดเกราะและอาวุธที่ผู้เล่นสามารถคราฟท์ได้จากของที่ดรอปหลังกำจัดสัตว์ประหลาด ซึ่งของได้เหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นเซ็ตใหม่ทั้งหมดที่ยังไม่เคยมีมาก่อนในเกม ทั้งนี้การอัพเดทยังรวมถึงการเพิ่มเซ็ตเกราะ the Drachen, the Gae Bolg insect glaive และ the Dragoon ด้วย นอกเหนือจากนี้ยังมีเซ็ตชุดเกราะสำหรับคู่หูคู่ใจของเหล่านักล่า Palico และตัวเกมยังเพิ่มตะบองเพชรจิ๋วจาก Final Fantasy ที่จะคอยสะบัดหนาม ทำให้การล่าสัตว์ประหลาดของเหล่าฮันเตอร์ยากขึ้นไปอีกขั้น ทั้งนี้ยังไม่มีกำหนดแน่ชัดว่ากิจกรรมที่ทั้งสองเกมจับมือกันจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ และยังไม่ทราบแม้กระทั่งว่าเจ้า Behemoth นี้จะคงอยู่ใน Monster Hunter: World ต่อไปหลังจากจบกิจกรรมหรือไม่ เพื่อนๆ คงต้องรอฟังข่าวกันอีกทีหลังจากเริ่มกิจกรรมในที่วันที่ 1 สิงหาคม https://www.youtube.com/watch?v=VxywHrLB9iU ปล. กิจกรรมฟรีนี้จะยังมีแค่เวอร์ชั่น PS4 และ Xbox One ก่อนเท่านั้น ในส่วนของเวอร์ชั่น PC น่าจะต้องรอไปก่อนจนกว่า Monster Hunter: World จะถูกปล่อยออกมาในวันที่ 9 สิงหาคมก่อนนะจ๊ะ
13 Jul 2018
Final Fantasy XIV ปล่อยเทรลเลอร์ใหม่ จับมือ Monster Hunter World เร็วๆ นี้!
เมื่อคืนนี้ในงานแถลงข่าว E3 2018 ของ Square Enix ได้มีการประกาศถึงเกมใหม่ๆ ที่ทางค่ายจำปล่อยออกมาให้ผู้เล่นเร็วๆ นี้ สำหรับแฟนๆ เกมออนไลน์ Final Fantasy XIV ทาง Square Enix ก็ได้นำเทรลเลอร์ใหม่ของภาคเสริมที่กำลังจะมาถึงอย่าง Under the Moon Light ที่จะทำการเพิ่มเควสเนื้อเรื่องใหม่ๆ เข้าไปด้วย! โดยอัพเดทนี้จะฟรีสำหรับผู้เล่นที่ซื้อภาคเสริม Stormblood แล้วทุกคนเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ ทางผู้พัฒนายังได้ปล่อยคลิปสั้นๆ เกี่ยวกับการร่วมมือระหว่างค่ายและเกม Monster Hunter World อีกด้วย! โดยนอกจากจะได้เจอเจ้าแมวผู้ช่วย Palico แล้วยังดูเหมือนว่าผู้เล่น Final Fantasy XIV จะได้ล่าแย้สุดคลาสสิคอย่างราธาลอส (Rathalos) กะเค้าบ้างแล้ว!
11 Jun 2018